สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐและตัวแทนพรรครีพับลิกัน ปราศรัยที่ศูนย์การประชุม ในเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ประกาศการเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี เหนือคู่แข่งคนสำคัญ คือนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ซึ่งเป็นแคนดิเดตพรรคเดโมแครต

นางเมลาเนีย ทรัมป์ และนายบาร์รอน ทรัมป์ บุตรชาย


ทรัมป์ วัย 78 ปี กล่าวว่า ชัยชนะครั้งนี้ คือ “ประวัติศาสตร์” ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการเมืองของสหรัฐ และช่วงเวลานับจากนี้ จะเป็น “ยุคทอง” ของชาวอเมริกันทุกคน พร้อมทั้งยืนยันว่า จะทำให้ “อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” ซึ่งเป็นสโลแกนที่ทรัมป์ใช้หาเสียงมาตลอด และปิดท้ายด้วยการขอบคุณครอบครัว โดยเฉพาะนางเมลาเนีย ทรัมป์ อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งและภริยา ที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด


ขณะเดียวกัน ทรัมป์เชิญนายเจ.ดี. แวนซ์ วุฒิสมาชิกรัฐโอไฮโอ ซึ่งลงสมัครคู่กันในฐานะรองประธานาธิบดี ให้ร่วมปรากฏตัวบนเวที โดยแวนซ์กล่าวว่า ชัยชนะครั้งนี้ “คือการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด” ในทางการเมือง ขอบคุณที่ทรัมป์เลือกให้เป็นพาร์ทเนอร์ และยืนยันว่า นับจากนี้ เศรษฐกิจของสหรัฐจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง

นายเจ.ดี. แวนซ์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ในการสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวบนเวที


การประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์ เกิดขึ้นหลังสื่อใหญ่ทุกแห่งในสหรัฐ ให้ทรัมป์ชนะในสวิงสเตตอย่างน้อย 3 จาก 7 รัฐ คือ เพนซิลเวเนีย นอร์ทแคโรไลนา และจอร์เจีย ทำให้ตอนนี้ ทรัมป์รวบรวมคะแนนคณะผู้เลือกตั้งได้แล้วอย่างน้อย 266 เสียง จากทั้งหมดที่ต้องการคืออย่างน้อย 270 เสียง ในจำนวนคณะผู้เลือกตั้งทั้งหมด 538 เสียง และคิดเป็นป๊อปปูลาร์โหวตมากกว่า 68.5 ล้านเสียง


ส่วนนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีและตัวแทนพรรคเดโมแครต มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งอย่างน้อย 219 เสียง คิดเป็นป๊อปปูลาร์โหวต 63.3 ล้านเสียง


หากแนวโน้มยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ทรัมป์จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำสหรัฐคนที่สอง ซึ่งชนะการเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งแม้ไม่ต่อเนื่องกัน ต่อจากประธานาธิบดีโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ผู้นำสหรัฐคนที่ 22 จากพรรคเดโมแครต ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2428-2432 และ 2436-2440.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES