กรณียายวัย 60 ปี นั่งประกอบระเบิดพลุไข่ไล่นก เกิดพลาดบึ้มสนั่นจนแขนขาด-บ้านเสียหายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนหาสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนสภาพร่างกายผู้บาดเจ็บ แขนขาด ลำตัวมีบาดแผลสาหัส โดนสะเก็ดระเบิดทั้งตัว ดวงตา ลำตัว ศีรษะ อาการสาหัส ขณะนี้ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช นั้น
สลด! ยายวัย 60 ปีนั่งประกอบระเบิดปิงปอง พลาดบึ้มสนั่นแขนขาด-บ้านหายทั้งหลัง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 67 ว่าที่นายกองเอก เชษฐา ขาวประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี พ.ต.อ.ชัยชาญพัฒน์ ยติรัตนกัญญา ผกก.หนองหญ้าไซ นางสาวธัญญารัตน์ กาญจนรัตน์นายอำเภอหนองหญ้าไซ และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้ประสบเหตุในเบื้องต้น
พล.ต.ต.วัชรินทร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งทีมพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบพื้นที่ โดยกันพื้นที่อันตรายไว้ และเก็บวัตถุอันตรายทั้งหมด เคลียร์พื้นที่ เบื้องต้นพบดินเทาที่ใช้ประกอบพลุลุกบอลไล่นกจำนวนหนึ่งในถังพลาสติก และพบปลอกพลุลูกนก ประมาณ 1,000 ลูก หล่นในที่เกิดเหตุ เกลื่อนกระจัดกระจาย และอุปกรณ์ทำพลุลูกนก จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บขณะนี้รักษาอยู่ที่ รพ. อาการสาหัส โดยที่ผ่านมาทางตำรวจและปกครอง ก็ได้ออกตรวจสอบเป็นประจำ ซึ่งรายนี้ก็ถูกจับกุมไปเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา และกลับมาลักลอบทำอีกครั้ง โดยมีการรับมาจากในหมู่บ้าน ซึ่งได้สั่งชุดสืบสวนดำเนินการตรวจสอบในพื้นที่แล้วว่าเป็นใคร เตรียมเรียกมาสอบ โดยตัวลูกชายก็ให้การว่า แม่รับจ้างมาทำประกอบที่บ้าน เคยหยุดทำไปพักหนึ่งและก็รับกลับมาทำใหม่ โดยได้รับค่าจ้างตามจำนวนที่ทำในแต่ละวัน เพื่อหารายได้เสริมของครอบครัว ส่วนสาเหตุ จากการตรวจสอบของ พฐ. ไม่พบอุปกรณ์ไฟฟ้าใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ ซึ่งก็คาดว่าสาเหตุอาจเกิดจากความประมาทของผู้ประกอบพลุไล่นก อาจเกิดการเสียดสีของดินเทาที่ตกกับพื้น จนทำให้เกิดประกายไฟ และเกิดแรงระเบิดขึ้นอย่างแรง ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และบ้านพังเสียหายทั้งหลัง อย่างไรก็ดี ทางตำรวจจะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายกองเอก กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบ และทางจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีการประชุมเร่งด่วน ถึงการวางมาตรการขั้นเด็ดขาด เพราะที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นในพื้นที่บ่อยครั้ง นำมาซึ่งความสูญเสีย ทางฝ่ายปกครอง และทางตำรวจเอง ก็สนธิกำลังออกตรวจสอบกันอยู่เป็นประจำ และจับกุมอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังมีชาวบ้านที่ลักลอบทำอยู่ โดยมีการตักเตือนและจับกุมตลอด โดยส่วนใหญ่อ้างว่าเป็นการหารายได้เลี้ยงครอบครัว อย่างไรก็ดี ฝากเตือนให้กับชาวบ้านที่ลักลอบทำให้หยุดทำ เพราะมันอันตรายถึงชีวิต และเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำไปมา หลายครั้งแล้ว จึงอยากให้เป็นบทเรียน เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้นอีก.
