“โรงพยาบาลธนบุรี” หนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรก ๆ ของประเทศ ก่อตั้งเมื่อเกือบครึ่งศตวรรษก่อนโดยกลุ่มแพทย์ไทยเพื่อเป็นทางเลือกให้คนกรุงเทพฯ และคนฝั่งธนบุรี สามารถเข้ารับการดูแลรักษาที่มีคุณภาพในราคาเหมาะสมเข้าถึงได้ และปัจจุบันเป็นโรงพยาบาลเรือธงในเครือ ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพทั้งด้านทีมแพทย์ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแพทย์ รวมทั้งเครือข่ายการรักษาที่เชื่อมต่อกับอีก 10 โรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ
วันนี้ “เรือธง” ลำนี้ก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยการขับเคลื่อนของ “ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์” ผู้ปักธงตั้งแต่วันแรกของการเข้ารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลธนบุรี ว่า “โรงพยาบาลธนบุรีต้องเป็นโรงพยาบาลที่ทุกคนเชื่อมั่นว่าให้การรักษาที่มีมาตรฐาน คุ้มค่า มีจริยธรรมการแพทย์และจริยธรรมทางธุรกิจ”
จากความผูกพัน..ผันสู่กัปตันทีม
วงการแพทย์ไทยและนานาชาติคุ้นกับชื่อเสียงของ ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ เป็นอย่างดี นอกจากเป็น “อาจารย์หมอ” ที่มีผลงานวิชาการด้านศัลยกรรมกระดูกแล้ว ยังเป็นผู้บริหารระดับสูงในโรงพยาบาลศิริราชมานานกว่า 20 ปี ก่อนเกษียณราชการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา อาทิ รองคณบดีฝ่ายพันธกิจบริการทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชนานถึง 10 ปี และปัจจุบันยังเป็นอุปนายกแพทยสภา นอกจากนี้ ยังเป็นกรรมการบริษัทต่าง ๆ ในเครือ THG มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559
“ผมมีประสบการณ์การทำงานที่ โรงพยาบาลธนบุรี ตั้งแต่ตอนที่กลับมาจากต่างประเทศ (ปี 2540) อาจารย์อำนวยท่านชวนมาทำงานที่นี่ อันที่จริงผมช่วยงานท่านตั้งแต่ก่อนไปเรียนต่างประเทศแล้ว พอมาอยู่ที่นี่ช่วงแรก ๆ ก็ยังเป็นผู้ช่วย หลังจากนั้นไม่นานอาจารย์ก็ปล่อยให้บินเดี่ยว เรียกว่าผมมีประสบการณ์ที่โรงพยาบาลธนบุรีเป็นหลักเลย ทำงานด้วยความสุขใจ รู้สึกเหมือนกับทำงานที่ศิริราช ทั้งด้านสังคม บรรยากาศ มาตรฐาน วิธีทำงาน และการตัดสินใจ”
“อาจารย์อำนวย” คือ ศ.เกียรติคุณ นพ.อำนวย อุนนะนันทน์ หนึ่งในคณะแพทย์ผู้ก่อตั้ง โรงพยาบาลธนบุรี บุคคลที่ ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ เคารพรักตั้งแต่สมัยเรียนแพทย์ เมื่อจบมาทำงานก็ยึดถือท่านเป็นต้นแบบในวิชาชีพแพทย์
“เหตุผลแรกที่ตัดสินใจรับตำแหน่ง เพราะที่นี่เป็นบ้าน มีความคุ้นเคย ทั้งวิธีคิด บุคลากร ที่ปรึกษา ทีมงาน ล้วนเป็นคนคุ้นเคยกัน เหตุผลที่สองคือ ด้วยประสบการณ์การบริหารโรงพยาบาลมากว่า 10 ปี สั่งสมความรู้ทั้งด้านการบริหารด้วยแนวคิดใหม่ที่หลากหลายไม่ใช่เฉพาะเรื่องการแพทย์ จึงคิดว่าสามารถนำมาต่อยอดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้ โรงพยาบาลธนบุรี ได้อีกมาก อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนไปข้างหน้ายังคงยึดมั่นจุดยืนการเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ คุ้มค่า คุ้มราคา เข้าถึงได้ เป็นไปตามปณิธานของคณะแพทย์ผู้ก่อตั้ง”
ไม่แข่งขัน..ร่วมมือ-สร้างคุณค่า
โรงพยาบาลเอกชน คือทางเลือกหนึ่งที่สำคัญ ที่ไม่ใช่กำไรสูงสุดแต่สร้างคุณค่าสูงสุด
แม้ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนจะเป็น “ตลาด” ที่ “มีการแข่งขันอย่างสูง” ทว่า ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ กลับมองว่าการแข่งขันมิใช่กุญแจที่จะทำให้เกิดความยั่งยืน “การจะเป็นโรงพยาบาลทางเลือกที่ดีของประชาชน ถ้าเริ่มต้นด้วยการมองคนอื่นเป็นคู่แข่งก็ผิดตั้งแต่แรกแล้ว นับจากนี้โรงพยาบาลธนบุรีจะไม่เป็นคู่แข่งกับใคร เราจะมองคนอื่นเป็นคู่เทียบในการพัฒนาคุณค่าการให้บริการ ไม่ใช่คู่แข่ง แต่เราจะพัฒนาเพื่อเป็นทางเลือกที่ดี”
ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ เพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาโรงพยาบาลธนบุรีได้รับความเชื่อถือในวงการแพทย์ว่ามีมาตรฐานการรักษาสูง มีผลลัพธ์การรักษาดี มีจริยธรรม เพราะการตัดสินใจในการรักษายึดถือข้อมูลทางการแพทย์เป็นสำคัญ นี่คือจุดเด่นของโรงพยาบาลธนบุรีที่เป็นมาตลอด “สิ่งที่จะต่อยอดคือ คุณภาพการบริการ ระบบงาน และสิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาล โดยใช้แนวคิดการบริหาร 4 แกนหลัก คือ ปลอดภัยมากขึ้น คุณภาพดีขึ้น ประสิทธิภาพมากขึ้น และต้องมีนวัตกรรม”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลธนบุรี ขยายความการบริหาร “4 แกนหลัก” ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า (1) ความปลอดภัย หมายถึงการดูแลคนไข้และบุคลากรที่ดี คนไข้มาพบแพทย์ต้องตรวจวินิจฉัยถูกโรค จ่ายยาถูกต้อง ผ่าตัดตรงจุด บุคลากรต้องไม่บาดเจ็บจากการทำงาน (2) คุณภาพ การรักษาพยาบาลต้องดีภายใต้มาตรฐานการแพทย์ งานบริการต้องสร้างความพึงพอใจให้ทั้งคนไข้และบุคลากร (3) ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ต้องบริหารจัดการให้ราคาคุ้มค่า สามารถตรวจรักษาได้ฉับไวภายใต้การทำงานที่เหมาะสม และ (4) นวัตกรรม ที่มิได้จำกัดเฉพาะเทคโนโลยีและดิจิทัล แต่รวมถึงความคิดใหม่ ความรู้ใหม่ สิ่งประดิษฐ์ใหม่ เพื่อการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้น
“การบริหารโรงพยาบาล ไม่ว่ารัฐหรือเอกชน คุณค่า ที่คนไข้ได้รับ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และต้องกำหนดคุณค่าที่จะมอบให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายควบคู่กันไปด้วยเสมอ อาทิ คนไข้ต้องได้รับการรักษาที่ดี หายป่วย ถ้าคนไข้มีประกัน การหายป่วยคือกำไรเพราะเขาไม่ได้จ่ายเพิ่ม สำหรับบริษัทประกันก็ต้องรู้สึกว่าโรงพยาบาลธนบุรีมีคุณค่า คุ้มค่ามาก ถ้าเลือกให้มาที่นี่ หรือบริษัท องค์กร ที่จ่ายค่ารักษาบางส่วนให้พนักงาน ถ้าเขาได้รับการดูแลที่ดี องค์กรจะรู้สึกคุ้ม ในมุมของผู้ถือหุ้นโรงพยาบาลต้องอธิบายได้ว่าเอาเงินไปใช้อย่างไรที่ได้ผลตอบแทนที่มีคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อสังคม แม้จะกำไรน้อยหน่อย แต่ คุณค่า คือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นในระยะยาว การบริหารจึงต้องพิจารณารัดกุมในทุกมิติ ทั้งมุมของผู้ป่วย และมุมของผู้เกี่ยวข้อง”
เด่นจริยธรรม..ทั้งแพทย์-ธุรกิจ
ตลอด 4 ทศวรรษของการดำเนินงาน โรงพยาบาลธนบุรี ลงทุนด้านเทคโนโลยีการแพทย์ล้ำสมัยมากมายเทียบเท่าโรงเรียนแพทย์ชั้นนำ เช่น การนำ หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด Da Vinci Xi Surgical System และ Mako Robot เข้ามาช่วยศัลยแพทย์ในการผ่าตัดที่มีความซับซ้อน ลดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด ทั้งการผ่าตัดข้อเข่า ข้อสะโพก ผ่าตัดมะเร็ง ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ รวมถึง หุ่นยนต์ช่วยฝึกเดิน สำหรับกายภาพบำบัด การลงทุน เทคโนโลยีการผ่าตัดส่องกล้องกระดูกสันหลังแบบเอนโดสโคป (Endoscopic Spine Surgery) การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองโดยไม่ต้องผ่าตัดด้วย เทคโนโลยี Bi-Plane DSA (Biplane Digital Subtraction Angiograph) การตรวจหลอดเลือดโดยการใช้รังสีวินิจฉัยด้วยเครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดชนิด 2 ระนาบที่ให้ความแม่นยำมากกว่าการเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์ (CT) หรือการตรวจด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) และยังมีการลงทุนครอบคลุมโรคต่าง ๆ แบบครบวงจร เหล่านี้เป็นจุดเด่นที่มีอยู่แล้ว
“เรายังคงต้องลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อย้ำจุดยืนการเป็นโรงพยาบาลทางเลือกอันดับต้น ๆ ที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ ทั้งในเชิงป้องกันและรักษา บริการที่ดี ทันสมัย อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเน้นความสำคัญ 2 เรื่อง หนึ่ง–คุณภาพการรักษาพยาบาล คนไข้เชื่อมั่นว่าเรารักษาดี บริการดี ดูแลอย่างถูกต้องด้วยจริยธรรมทางการแพทย์ และสอง–ทำธุรกิจอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ คำนึงถึงสังคมส่วนรวม คือคุณภาพจริยธรรมทางธุรกิจ ก้าวใหม่ของเราจะต้องเป็น The Most trusted and valued คนไข้ไว้ใจการดูแลรักษาได้มากที่สุด ผู้ถือหุ้นไว้ใจได้ในจริยธรรมธุรกิจ”
ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์อธิบายให้เห็นภาพในประเด็นนี้ว่า โรงพยาบาลธนบุรี จะเปิดอาคารผู้ป่วยนอก (OPD) แห่งใหม่ ในต้นปี 2568 เป็นการลงทุนเทคโนโลยีการแพทย์ทันสมัย พร้อมออกแบบภายใต้แนวทางอาคารสีเขียว ประหยัดพลังงาน มีฟิลเตอร์กรอง PM 2.5 มีระบบคุมอุณหภูมิและคุณภาพอากาศภายในอาคาร และมีการนำระบบ Patient Management System มาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกในการนัดพบแพทย์และการจัดคิวรอตรวจสำหรับผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องพบแพทย์หลายด้าน เพื่อลดการเสียเวลาของผู้ป่วย
บริการ ศูนย์ตรวจสุขภาพองค์รวม (Integrative Checkup Center) ที่สามารถดูแลต่อเนื่องทั้งชีวิตตั้งแต่เกิด เพื่อการประเมินว่าบุคคลนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอะไรตั้งแต่ยังไม่ป่วย เพื่อป้องกันแทนการรักษา เป็นอีกหนึ่งแผนงานของประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่
และหัวใจหลักที่ขาดไม่ได้คือ “แพทย์” แม่เหล็กของโรงพยาบาล ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ บอกว่าหลักการบริหารที่ดีคือ โรงพยาบาลต้องไว้ใจแพทย์ และแพทย์ต้องไว้ใจโรงพยาบาล แพทย์ที่ดีจะสนใจโรงพยาบาลที่รักษาตามมาตรฐานและจรรยาบรรณ และแพทย์ที่คิดเช่นนี้คือบุคลากรที่โรงพยาบาลธนบุรีมองหา
“ผมคิดว่าแพทย์รุ่นใหม่จะมองหางานที่ตอบไลฟ์สไตล์ ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่ไม่ทันสมัย คนรุ่นใหม่จะไม่มา เพราะฉะนั้นการปรับรูปแบบบริการที่ตอบสนองคนไข้โดยใช้เทคโนโลยี ก็ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เราเองก็ต้องสนับสนุนให้แพทย์รุ่นใหม่ ๆ สามารถเสนอไอเดียที่เป็น passion ของเขา เพื่อให้เขาได้สร้างผลงาน”
ทั้งหมดนี้คือ “ธนบุรี เวย์” ก้าวใหม่จากผลึกคิดของ “ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “โรงพยาบาลธนบุรี” คนล่าสุด.
