ออกมาเคลื่อนไหวแล้วสำหรับ ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ นักแสดงชื่อดัง อายุ 31 ปี ที่ล่าสุดได้ให้สัมภาษณ์หลังจบงาน “THE WAGASHI, Japanese Food, Crafts and Ikebana Festival” ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 6 ปี SIAM Takashimaya 6th Anniversary โดยได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดราม่าการทารุณกรรมสัตว์กับฉากวางยาแมวในละครเรื่อง “แม่หยัว” ทางช่อง one31 ซึ่งฟิล์มรับบทเป็น วามน หรือ พันบัตรศรีเทพ และ ขุนวรวงศาธิราช ซึ่งฟิล์มเล่าว่า
“สำหรับเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้น อย่างแรกเลยก็อยากจะบอกทุกคนว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ก็อย่างที่ทุกคนได้เห็นตามแฮชแท็กเกิดแต่กับผม ผลกระทบก็เยอะพอสมควร เราก็ได้ตามอ่าน แต่ผมก็รู้สึกว่าเราเองก็เข้าใจความรู้สึกของหลายๆ ฝ่ายด้วย ส่วนดราม่าของทางใหม่ ดาวิกา อันนั้นก็เป็นในเรื่องส่วนตัวของทางดาวิกาเนาะ ก็คิดว่าเขาน่าจะได้รับผลกระทบทางจิตใจ ค่อนข้างหนักเลยทีเดียว ซึ่งทางด้านฟิล์มก็ขอขอบคุณจริงๆ ที่เข้าใจผม เพราะว่าฟีดแบ็กที่เข้ามากับผมก็ไม่ได้หนักหนามาก แล้วก็หลายคนเข้าใจ ก็ตามมีที่เห็นเกิดแต่กับผม (หัวเราะ) แล้วในส่วนของผม ผมก็เป็นนักแสดงเนาะ เราก็ตั้งใจทำหน้าที่ของเรา เราในฐานะนักแสดงก็ถ่ายทอดตัวละครออกมาเต็มที่ที่สุดแล้ว พอเกิดเรื่องก็มีโอกาสได้คุยกับทีมงานครับ ในส่วนนั้นก็ขอให้เป็นเรื่องของทางผู้ใหญ่ แล้วก็ทีมงานเป็นคนพูดดีกว่า เพราะว่าจริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ดีเทลมากขนาดนั้น สำหรับที่ทางช่องวันได้ออกมาบอกว่าจะไม่ใช้สัตว์จริงๆแสดงแล้ว ในส่วนนี้ผมก็รู้สึกดีที่มันเป็นแบบนั้น เพราะว่าเราจะได้เลิกเบียดเบียนสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจ อย่างที่รู้กันว่า ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดภาษาเดียวกับเรา แต่ว่าเขาก็มีความรู้สึกที่รับรู้ได้ และก็มีความเจ็บปวดทรมานไม่ต่างจากเรา”
“สำหรับที่มีหลายคนสงสารเรามันประดังในช่วงเวลาเดียวกันทั้ง2เรื่อง คือร้องไห้แล้วนะ (ปาดน้ำตา) ผมก็ถือว่ามันเป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้และกัน เกิดตอนนี้ก็ดี ผมว่าก็ทำให้ทุกๆฝ่ายดูแลในส่วนนี้มากขึ้น เรื่องมันไม่ได้เกี่ยวกับเรา ก็ขอบคุณ (เสียงสั่น) ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง อย่างที่ผมพูดไป ผมก็ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่ที่สุดแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแบบนี้ แต่ว่าก็ขอบคุณจริงๆที่ทุกคนรัก และเห็นความตั้งใจของเราจริงๆ แต่ว่าในส่วนอื่นๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ เราแก้ไขไม่ได้ไม่ใช่หน้าที่ของเรา ก็เดี๋ยวผมไปมู ไปไหว้พระขอพรแล้วกันครับ อาจจะดวงตก แต่หวังว่ามันจะต้องมีสักเรื่องสักปีแหละที่มันต้องเป็นของเรา”
“ส่วนในเรื่องของดราม่ามันก็มีมีผลกระทบต่อเรตติ้งละครที่เหลืออีก 4EP.ครับไม่มากก็น้อย อย่างที่ทุกคนได้ทราบกัน ก็มีหลายคนที่รับไม่ได้ เราก็เข้าใจได้ในส่วนนี้ โอเคเขารับไม่ได้กับการกระทำ อันนี้คือไม่ติดเลย อย่างที่เคยพูดไปครั้งก่อนหน้านั้น คือ ใครที่ไม่สะดวกใจที่จะดู เราก็เข้าใจ ไม่ตำหนิและไม่ต่อว่ากัน ผมเคารพในการตัดสินใจของคนดูมาก ถ้ารู้สึกว่าเรตติ้งมันตก เขารู้สึกว่ารับไม่ได้จริงๆ มันก็คิดจิตใจของเขา เราเข้าใจจริงๆ ถามว่าเสียดายกับสิ่งที่เราทุ่มเทในเรื่องนี้ไหม ถ้าพูดตรงๆผมก็เสียดาย เพราะว่าก็รู้สึกว่าตัวเองตั้งใจทำ เรียกว่าก็เต็มที่ที่สุดแล้วตั้งแต่ทำงานมา ไม่ว่าจะในหลายๆเรื่อง ในการแสดงเองก็ตาม ในส่วนของการเปลี่ยนบอดี้ตัวเองก็ตาม ทุกอย่างก็ทำมาเพื่อในส่วนนี้ ก็อยากให้ทุกคนได้เห็นผลงานดีๆ ออกไป ได้เห็นความตั้งใจของเรา มันไม่ใช่เราคนเดียวหรอกที่ตั้งใจทำงานนี้(ร้องไห้) ส่วนสำหรับคนที่ยังซัพพอร์ตเรา ก็ขอบคุณที่เข้าใจการทำงานของนักแสดงจริงๆ ก็ขอบคุณที่เห็นความตั้งใจของพวกเรา มันไม่ใช่แค่ผมที่ตั้งใจทำงานนี้ เพราะว่าผมได้เห็นนัแสดงคนอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าถวายตัวเพื่องานชิ้นนี้ไม่แพ้กัน (เสียงสั่น) ในส่วนที่เหลืออีก4ตอน ถ้าใครสบายใจก็ดูนะ มันสนุกและจะสนุกขึ้นเรื่อยๆ ถ้าผมพูดในมุมของนักแสดง ความเข้มข้นของมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผมมันเป็นบทบายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตตัวเองครั้งแรก แต่ส่วนใครไม่สบายใจก็ไม่ดูก็ได้ เราเข้าใจในความสบายใจของคนดู ถามว่าเราต้องย้อนกลับไปดูไหมว่ามีอะไรสุ่มเสี่ยง อันนี้ผมว่ามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ มันเป็นส่วนของทีมตัดต่อ ผมก็ไม่ได้มีหน้าที่ในส่วนนั้น ผมเชื่อว่าหลายๆคนเราได้เห็นความตั้งใจของเขา ก็ได้เห็นนักแสดงหลายคนได้รับกระแสที่ค่อนข้างมีผลกระทบต่อจิตใจ เราก็มีการพูดคุยให้กำลังใจกัน จริงๆเราไม่ได้คิดว่าตัวเองจะมานั่งร้องไห้กับเรื่องอะไรพวกนี้ ผมแค่เสียดายความตั้งใจของตัวเองและคนอื่นๆ แม้ว่ามันจะไม่นานมากแต่เป็นละครที่เราทุ่มเทอะไรหลายอย่าง แลกมาด้วยสภาวะจิตใจตอนทำงานแลกด้วยร่างกายที่มันทรหดกว่าเรื่องอื่นๆมากๆ ก็แค่อยากให้ทุกคนได้เห็นบ้างว่าพวกเราตั้งใจแค่ไหน”
