จากกรณี ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ศวอบ.) รายงานการตรวจสอบซากพะยูนเกยตื้น ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านบางโรง ว่าพบซากพะยูนเกยตื้น บริเวณในคลองทางเข้าท่าเรือบางโรง หมู่ 3 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงได้ประสานเข้าพื้นที่ พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 เพื่อช่วยดำเนินการเคลื่อนย้ายซาก จากการตรวจสอบพบพะยูน (Dugong dugon) อยู่ในช่วงโตเต็มวัย เพศผู้ ความยาวลำตัว 223 ซม. ไม่รวมส่วนหัว น้ำหนักประมาณ 250 กก.

อีกทั้ง สภาพซากเน่ามาก ความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในระดับสมบูรณ์ผอม (BCS 2/5) ทำการตรวจร่างกายภายนอก พบรอยจากของมีคมตัดโดยรอบส่วนคอ และส่วนหัวหายไป โดยตัดขาดบริเวณกระดูกสันหลังส่วนคอชิ้นแรก ผิวหนังภายนอกบริเวณด้านหลัง พบรอยแผลจากพฤติกรรมฝูง มีเพรียงเกาะตามร่างกาย พบรอยแผลถลอกโดยรอบร่างกาย และพบรอยรัดบริเวณครีบข้างด้านขวา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการขนย้ายซากมาผ่าชันสูตร หาสาเหตุการตายต่อไป ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 67 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เผยข้อมูลลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Thon Thamrongnawasawat พูดถึงประเด็นดังกล่าว ว่า “พะยูนถูกตัดหัวเอาเขี้ยว ในรอบ 7 วัน โดนไปแล้ว 2 ตัว อยากบอกง่ายๆ ว่าไอ้ชั่ว”

อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างบอกว่า “โทษหนักๆ, พูดออกอากาศไม่ได้เลย, แย่มาก ไม่อยากจะเชื่อว่า สมัยนี้ยังมีคนแบบนี้อยู่อีกครับ” อีกด้วย..

ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน Thon Thamrongnawasawat และGreenXpress