เมื่อเวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 12 ชั่วโมง) วันที่ 15 พ.ย. ตามวันของสาธารณรัฐเปรู ซึ่งกับวันที่ 16 พ.ย. ของประเทศไทย ที่โรงแรม Delfines Hotel Lima น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือทวิภาคีกับนายสี จิ้นผิง (H.E. Mr. Xi Jinping) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง
โดยนายกฯ กล่าวยืนยันความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับจีน ทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรอบเอเปค ซึ่งไทยยินดีสนับสนุนจีนเป็นเจ้าภาพเอเปค ในปี พ.ศ. 2569 และพร้อมให้การต้อนรับประธานาธิบดีและภริยา ในโอกาสงานเฉลิมฉลองความสัมพันธ์จีน-ไทย ครบรอบ 50 ปี ในปีหน้านี้ ซึ่งถือเป็นปีทองของมิตรภาพไทย-จีน อีกด้วย
ขณะที่นายสี จิ้นผิง กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และจีน-ไทย มีมิตรภาพที่มีความพิเศษยิ่ง เรามีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในทุกระดับ มาอย่างยาวนาน ซึ่งเชื่อว่าความสัมพันธ์ จีน-ไทย ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่ลึกซึ้ง และจะยิ่งมากขึ้นไปอีก 50 ปี โดยจีนและไทย จะขยายความร่วมมือทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม และการศึกษา รวมทั้งวิทยาการใหม่ๆ ทั้งด้าน วิทยาศาสตร์ อวกาศ นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเชื่อว่าจะนำความเจริญรุ่งเรือง ให้กับทั้งสองประเทศและภูมิภาคได้
ด้านนายกฯ ยังกล่าวชี่นชมการพัฒนาด้านต่างๆ ของจีน รวมทั้งนโยบายกำลังผลิตคุณภาพใหม่ (new quality productive force) ที่ทำให้จีนรุดหน้าอย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพัฒนาด้านต่างๆ ของประเทศไทย ที่มุ่งส่งเสริมโลกาภิวัตน์ ด้วยการค้าเสรีที่เปิดกว้างขึ้นโดยยึดมั่นในกฎกติกาของโลก และขอขอบคุณจีนที่ให้การสนับสนุนประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ (BRICS) อีกด้วย
ทั้งนี้ นายสี จิ้นผิง กล่าวยืนยันสนับสนุนไทยให้ไทยเป็นสมาชิก BRICS รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในทุกระดับ ทั้งการประชุมกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) การประชุมกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) รวมทั้งพร้อมร่วมมือสาขาใหม่ๆ ระหว่างกัน เช่น พลังงานสะอาด เทคโนโลยีดิจิทัล นอกจากนี้ จีนยังยินดีนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศไทย และพร้อมขยายการค้า การลงทุน และความร่วมมือด้านการศึกษา เยาวชน และการเชื่อมโยงระหว่างภาคประชาชน รวมทั้งการแก้ปัญหาอาญชญากรรมข้ามแดน และภัยออนไลน์ต่างๆ ด้วย
ในช่วงท้าย นายกฯ กล่าวขอบคุณประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วจากกรุงปักกิ่ง มาประดิษฐานในไทย ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันที่ 4 ธ.ค. นี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นี้ ถือเป็นสิริมงคลยิ่งของคนไทยที่มีโอกาสได้สักการะ และวันนี้คนไทยยังตี่นเต้นที่จีน จะมอบแพนด้ายักษ์ มาประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง เพี่อเป็นสัญลักษณ์ในโอกาส ครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปี ไทย-จีน ในปีหน้านี้ด้วย.