เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 67 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า หลังจากการสอบปากคำยาวกว่า 5 ชั่วโมง น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่ให้การใดๆ กับพนักงานสอบสวน โดยอ้างว่าจะขอให้การเป็นเอกสารในภายหลัง จึงทำให้ในวันนี้ (17 พ.ย.) ยังไม่ดำเนินการนำตัว น.ส.กฤษอนงค์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีประเด็นสอบอะไรเพิ่มเติม ซึ่งหลังจากนี้เตรียมจะนำตัว น.ส.กฤษอนงค์ ส่งฝากผัดแรกที่ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลางในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและข่มขู่พยาน
พล.ต.ต.สุวัฒน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับข้อหาที่แจ้งดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ มี 2 ข้อหา ได้แก่ ข้อหากรรโชกทรัพย์ และข้อหาเป็นตัวกลางเรียกทรัพย์สินบน (เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจหรือได้จูงใจเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาลโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำการ หรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143) เนื่องจากพฤติการณ์ทางคดีที่เสนอขอหมายจับต่อศาล นอกจากจะพบว่ามีการข่มขู่เพื่อกรรโชกทรัพย์จากกลุ่มบอสดิไอคอน กรุ๊ป จำนวน 750,000 บาท เมื่อกลางปีที่ผ่านมาแล้ว ยังพบถ้อยคำที่กล่าวอ้างว่าจะมีการจ่ายเงินให้กับหน่วยงานรัฐหน่วยงานหนึ่งด้วยในลักษณะของตัวกลาง เมื่อได้แจ้งข้อหาเกี่ยวกับการทุจริตจึงทำให้คดีดังกล่าวอยู่ในเขตอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ในส่วนคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.กฤษอนงค์ รวมไปถึงคดีที่พัวพันกับ ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เกี่ยวเนื่องกับการเรียกรับผลประโยชน์ 20 ล้านบาทกับกลุ่มดิไอคอน กรุ๊ปนั้น มีรายงานข่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. จะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อหารือเกี่ยวกับคดีดังกล่าว แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาที่แน่ชัด.