สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ว่าสภาเทศบาลนครลอสแอนเจลิส มีมติในการประชุม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผ่านเทศบัญญัติการเป็น “เมืองพักพิงสำหรับผู้อพยพ” และห้ามใช้ทรัพยากรท้องถิ่น เพื่อช่วยเหลือหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลาง และโรงเรียนในพื้นที่ต้อง “เป็นสถานที่ปลอดภัย” สำหรับผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร และนักเรียนซึ่งเป็นเพศทางเลือก หรือ LGBTQ

“เมืองพักพิง” (sanctuary city) ใช้อธิบายถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งจำกัดความช่วยเหลือให้กับหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลาง เมืองต่าง ๆ มักใช้แนวทางมากมายเพื่อให้กลายเป็น “สถานที่ปลอดภัย” เช่น กำหนดนโยบาย หรือเปลี่ยนแนวทางการบังคับใช้เทศบัญญัติในท้องถิ่น

ในกรณีนี้รวมถึงการห้ามให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลาง และห้ามแบ่งปันข้อมูลบางอย่างระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและหน่วยงานของเมือง

ทั้งนี้ เทศบัญญัติดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เมื่อนางคาเรน บาสส์ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส ลงนาม

นอกจากนั้น เขตการศึกษานครลอสแอนเจลิสยังได้ลงคะแนนเสียงในมติฉุกเฉิน ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การต่อสู้กับกระแสต่อต้านผู้อพยพและ LGBTQ รวมถึงการเรียกร้องให้มีการฝึกอบรมครู และเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับวิธีการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจากส่วนกลาง

ขณะที่นายทอม โฮแมน อดีตรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ไอซีอี) ซึ่งทรัมป์วางตัวให้ทำหน้าที่ “หัวหน้านโยบายควบคุมชายแดน” ย้ำว่า นโยบายเหล่านี้จะไม่ขัดขวางการปฏิบัติตาม นโยบายเนรเทศ “อาชญากรผู้อพยพ”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES