เมื่อวันที่ 26 พ.ย. นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยถึงข่าวที่ชาวบ้านร้องเรียน เหตุเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี ของกรมโยธาธิการและผังเมือง งบประมาณกว่า 40 ล้านบาท เกิดการทรุดตัวระยะทางยาวกว่า 120 เมตร จนชาวบ้านกังวลว่าจะทรุดลง และประจวบกับในฤดูน้ำหลาก อาจจะทะลักท่วมพื้นที่การเกษตรและที่พักอาศัย จึงเรียกร้องให้เร่งแก้ไข ว่า โครงการที่ปรากฏในข่าว คือ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี (จุดที่ 1) บ้านคุยค้อ หมู่ที่ 6 หมู่ที่ 11 หมู่ที่ 17 ตำบลดินดำ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างค้ำประกันผลงานก่อสร้าง จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักสนับสนุนและพัฒนาตามผังเมือง พบว่า ความเสียหายในภาพข่าว เป็นทางเท้า ราวกันตกบนสันเขื่อน เกิดการทรุดตัวเสียหาย ความยาวประมาณ 120 เมตร ซึ่งเป็นองค์ประกอบส่วนบนของสัญญาจ้างโครงการก่อสร้างเขื่อนเรียงหินใหญ่ ซึ่งในช่วงเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุอุทกภัยจากพายุ “ดีเปรสชัน” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ระดับน้ำในแม่น้ำชีมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นท่วมเสมอแนวสันเขื่อน และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ด้านหลังบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ ช่วงเดือนต่อมาระดับน้ำในแม่น้ำชีได้ลดลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว จึงเป็นเหตุให้โครงสร้างเขื่อน ทางเท้า ราวกันตกเกิดการทรุดตัว จึงส่งผลกระทบต่องานส่วนบนเขื่อนให้ได้รับความเสียหายตามไปด้วย

นายพงษ์นรา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกรมโยธาฯ ได้ดำเนินการสั่งปรับพื้นที่ในส่วนดินถมหลังเขื่อนที่ประชาชนใช้เพื่อการเกษตรให้ใช้ได้ชั่วคราว และปิดกั้นพื้นที่โดยรอบบริเวณที่เสียหาย เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ สำนักสนับสนุนและพัฒนาตามผังเมือง ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่และผู้ออกแบบเข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่ เจาะสำรวจสภาพชั้นดิน เพื่อวิเคราะห์การพังเสียหายของเหตุการณ์ครั้งนี้ และจะทำการออกแบบแก้ไขพร้อมให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการซ่อมแซม เพื่อให้เกิดความมั่นคงแข็งแรงและสามารถใช้งานได้ดังเดิมให้ต่อไปโดยเร็ว