เมื่อวันที่ 26 พ.ย. พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย (ศปชก.) ภ.จว.สุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ร่มไทร รอง ผกก.สอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ ปฏิบัติหน้าที่คณะพนักงานสอบสวนประจำ ศปชก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินคดี 1.บริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด 2.บริษัท แม็กซิเคท จำกัด ในฐานะนิติบุคคล 3.นางแคทเทอร์รีน โจรี่ โรแล็นด์ เจอร์แมน เดลาโคท อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศส (เสียชีวิต) ข้อหา ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9)), เป็นคนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
นอกจากนี้ แจ้งข้อหา 4.นายทองใส คติสุข อายุ 50 ปี และ 5.นางรัชประภา โซเรดะ อายุ 36 ปี ข้อหา ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, ร่วมกันสนับสนุนช่วยเหลือให้คนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยผิดชอบด้วยกฎหมาย, เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9)) โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งคนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้กระทำการดังกล่าว โดย พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ได้มอบสำนวนการสืบสวนและพยานหลักฐาน ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี/รอง ผอ.ศปชก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ นางแคทเทอร์รีน ชาวฝรั่งเศส นักธุรกิจวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย ใช้ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเองริมสระน้ำในวิลล่าหรู ก่อนตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แม่บ้านคนสนิท มูลค่าร่วม 100 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา จนทำให้เป็นที่สนใจของคนไทยทั้งประเทศ ขณะเดียวกันปรากฏการณ์ดังกล่าว ก็ได้สร้างความกังขาให้กับสังคมเช่นกัน โดยเฉพาะประเด็นทรัพย์สินเกี่ยวกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่าชาวต่างชาติสามารถถือครองและโอนทรัพย์สินให้กับผู้อื่นได้หรือไม่ ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาจึงได้มอบหมายให้ ศปชก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เข้าสืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่องนาน 7 เดือน จนพบพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า การดำเนินธุรกิจในลักษณะนิติบุคคลที่มีบุคคลต่างด้าวเป็นกรรมการ เข้าข่ายความผิดลักษณะของตัวแทนอำพราง ซึ่งเราได้ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานจนมั่นใจว่าสามารถเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้ จึงเป็นที่มาของการเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในการสืบสวนยังพบว่ามีสำนักงานกฎหมายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและให้การช่วยเหลือในการจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคลของชาวต่างด้าว ซึ่งประเด็นของสำนักงานกฎหมายจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว นางแคทเทอร์รีน อายุ 59 ปี ชาวฝรั่งเศสนักธุรกิจวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย ใช้ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเองบนเก้าอี้ริมสระน้ำในวิลล่าหรู ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 67 หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดเนื่องจากมีการรายงานก่อนเสียชีวิต ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ นางณัฐวลัย หรือ ป้าติ๋ม ซึ่งเป็นคนใช้คนสนิท ประกอบด้วย บ้านหรือวิลล่าหรูพร้อมที่ดินที่เกิดเหตุ มูลค่าราว 30 ล้านบาท ที่ดินเปล่า 2 แปลง ที่มีพื้นที่ติดกับวิลล่า มูลค่าราว 20 ล้าน และทรัพย์สิน เครื่องประดับ บางส่วนที่ตู้เซฟ รวมถึงเงินสดในธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง โดยรวมมูลค่าที่ป้าติ๋ม จะได้รับมรดกประมาณ 100 ล้านบาท ผลการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจพบว่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง เนื่องจากไม่พบพิรุธหรือข้อบ่งชี้ว่ามีบุคคลอื่นทำให้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตามหลังปรากฏเป็นข่าว ทางกลุ่มสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ได้ออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเกี่ยวกับความถูกต้องในการถือครองทรัพย์สินรวมถึงการดำเนินกิจการธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลเพื่อถือครองทรัพย์สินโดยเฉพาะที่ดินในประเทศไทย รวมถึงให้มีการตรวจสอบการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อครอบครองวิลล่าของชาวต่างชาติ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและรักษาผลประโยชน์ของประเทศ และต่อมา พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.รมน.ภาค 4 (ตำแหน่งขณะนั้น) ได้สั่งการให้ชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 เข้าร่วมตรวจสอบสืบสวนหาข่าวและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ
กระทั่งนำไปสู่การตรวจสอบการถือครองที่ดินของรัฐ และการประกอบธุรกิจวิลล่าหรูบนเกาะสมุย นอกจากนี้นายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สุราษฎร์ธานี ยังได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริงตามมาตรการป้องกันการถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าวพื้นที่ อ.เกาะสมุย เข้าดำเนินการตรวจสอบเช่นกัน โดยคณะกรรมการตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริงรายงานการตรวจสอบ ได้ผลสรุปว่า ผู้เสียชีวิต คือ นางแคทเทอร์รีน จูแอลว์ โรแลนด์ เจอร์เมน เดลาโคท หรือชื่อ นางแคทเธอรีน โจ โรแล็นด์ เจอร์เมน ดิลาโคท เป็นกรรมการบริษัท 2 บริษัท คือ บริษัท จี.วี.เอ็น.อี. จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2555 วัตถุประสงค์ ขณะจดทะเบียนประกอบกิจการให้เช่าที่พัก รีสอร์ท บังกะโล และบ้านพักตากอากาศ และบริษัท แม็กชิเคท จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2551 วัตถุประสงค์ขณะจดทะเบียนประกอบธุรกิจรับเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจคอมพิวเตอร์ โดยทั้ง 2 บริษัท มีชื่อนางแคทเทอร์รีน เป็นกรรมการ ซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทแต่เพียงผู้เดียว จึงมีเหตุสงสัยว่า บริษัททั้ง 2 ถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว และมีการฝ่าฝืนกฎหมายโดยการถือครองที่ดินไว้แทนคนต่างด้าวโดยมิชอบในลักษณะตัวแทนอำพราง (นอมินี).