สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ว่า แพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น เอ็กซ์, สแนปแชต, ติ๊กต็อก และเมตา วิพากษ์วิจารณ์ การที่ออสเตรเลียต้องการบัญญัติกฎหมายดังกล่าว ว่า “ขาดการปรึกษาหารือ และรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางของกฎหมายฉบับใหม่”

เอ็กซ์ระบุในคำร้องว่า มาตรการแบนอาจส่ง “ผลกระทบเชิงลบ” ต่อเด็ก และละเมิดสิทธิในการแสดงออก และการเข้าถึงข้อมูลอย่างเสรีของเด็ก ยิ่งไปกว่านั้น กฎหมายยังมีความคลุมเครือและมีปัญหาอย่างมาก และยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ได้ว่า จะมีการบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมตากล่าวในการยื่นคำร้องว่า การห้ามดังกล่าวจะ “ล้มเหลว” เนื่องจากไม่มีการปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างเพียงพอ โดยบริษัทระบุว่า “ควรใช้เวลาเพิ่มเติมเพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ถูกต้อง”

ขณะที่ติ๊กต็อกแสดงความกังวลถึงข้อจำกัดด้านความเป็นส่วนตัว ซึ่งรวมถึงกฎที่ทับซ้อนและขัดแย้งกับกฎหมายอื่น ๆ และระยะเวลาในการปรึกษาหารือที่จำกัด “การเร่งรัดให้ผ่านกฎหมายดังกล่าว มีความเสี่ยงอย่างร้ายแรง ซึ่งจะเกิดผลกระทบไม่พึงประสงค์” บริษัทระบุในแถลงการณ์

อย่างไรก็ตาม บางแพลตฟอร์มจะได้รับการยกเว้น เช่น ยูทูบ เนื่องจากวัยรุ่นอาจจำเป็นต้องใช้เพื่อการเรียน หรือเหตุผลอื่น ๆ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซี ผู้นำออสเตรเลีย ยังคงยืนกรานว่า “โซเชียลมีเดียก่อให้เกิดอันตรายต่อสังคม” และการมีกฎหมายดังกล่าว จะช่วยให้ครอบครัว “สบายใจ” ว่าภาครัฐให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่และสุขภาพจิตของบุตรหลาน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ เป็นลำดับแรก.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES