เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.หญิง วิลาสินี อาษานาม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่หลังตลาดรถไฟ 2 ราย พลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลแล้ว จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี รีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถด้านหลังตลาดรถไฟ พบคราบเลือดที่พื้นถนน กระติกน้ำแข็งสีเขียว ปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 ปลอก ปลอกกระสุนขนาด 9 มม. 2 ปลอก เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ผู้บาดเจ็บคือนายธีรภัทร อายุ 18 ปี ถูกยิงที่หน้าอกขวากระสุนฝังใน แพทย์นำเข้าห้องผ่าตัด ส่วนนายศุภวิชญ์ อายุ 22 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าอกซ้ายทะลุปอดบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งตำรวจได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบกลุ่มอริจับกลุ่มเคลียร์ปัญหากัน แต่เคลียร์ไม่ได้ จากนั้นก็ยิงกัน ซึ่งในภาพวงจรปิดเห็นชายถือปืนออกมา

เพื่อนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เล่าว่า พวกตนชวนกันมาดูคอนเสิร์ต “ปู-พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์” ในงานทุ่งศรีเมือง และพบคู่อริของเพื่อนรุ่นพี่ผู้ตาย และพยายามเคลียร์แต่เคลียร์ไม่ได้ เพราะตำรวจบอกว่ารบกวนคนในงาน หลังคอนเสิร์ตเลิก จึงพากันขับรถมาเคลียร์กันที่ตลาดรถไฟ แต่คุยกันไม่รู้เรื่องและก็เริ่มวุ่นวาย ต่างคนต่างโวยวายเสียงดังใส่กัน หลายคนเริ่มชุลมุนเริ่มจะชกต่อยกัน จากนั้นก็ยิงกันในตลาดมาเรื่อยๆ แล้วมีผู้หญิงขี่รถจักรยานยนต์มารับคนยิงที่หน้าโรงพยาบาล

“คนยิงและคนตายมีเรื่องทะเลาะกันมา 2-3 ปีแล้ว เคลียร์กันในคอนเสิร์ตไม่จบ เจ้าหน้าที่ไล่เพราะไปรบกวนคนอื่นที่มาดูคอนเสิร์ต หลังคอนเสิร์ตเลิก ทั้งสองกลุ่มประมาณ 200-300 คน เลยขับรถมาเรื่อยๆ แล้วมาเคลียร์กันที่ตลาด พอชุลมุนก็โดนยิง 2 คน”

ต่อมามือยิงได้เข้ามอบตัวทราบชื่อนายเกรียงไกร อายุ 25 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ โดยนายเกรียงไกร อ้างว่า ตนมาดูคอนเสิร์ตกับกลุ่มเพื่อน ตนไม่รู้เรื่อง เดินออกมาก็โดนคนตายชก จากนั้นทั้งสองกลุ่มมีการนัดเคลียร์กันที่ตลาด แต่เคลียร์ไม่จบ เพราะเขาหาว่าตนไปทำร้ายกลุ่มอริก่อน เขาก็เอาหมวกกันน็อกฟาด ตนก็เลยชักปืนยิงสวนไป 1 นัด และวิ่งออกมายิงขึ้นฟ้าอีก 1 นัด ส่วนอาวุธปืนและกระสุนปืนสั่งซื้อทางออนไลน์ ราคา 2 หมื่นบาท

ตำรวจแจ้งข้อหานายเกรียงไกร มือยิง ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมื่อง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่เหตุอันควร ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป