“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ได้ลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะ(เฟส) ที่ 2 ช่วงขอนแก่น – หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร(กม.) กับ กิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง มี น.ส.สิรังรอง โชว์วิวัฒนา กรรมการบริหารกิจการร่วมค่าฯ เป็นผู้ร่วมลงนาม วงเงินโครงการ 28,679 ล้านบาท พร้อมทั้งร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงคุณธรรม ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นเส้นทางแรกของรถไฟทางคู่เฟาที่ 2 เป็นการต่อยอดเส้นทางชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น เพื่อเชื่อมโยงกับการบริการขนส่ง และโลจิสติกส์กับประเทศไทย-ลาว-จีน ได้มีประสิทธิภาพ เพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งทางราง มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางรางในภูมิภาคอาเซียน

นายวีริศ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นคาดว่า รฟท. จะสามารถออกหนังสือแจ้งให้เอกชนเริ่มงานก่อสร้าง(NTP) ได้ประมาณเดือน เม.ย.68 โดยในระหว่างนี้ รฟท. จะเร่งดำเนินการเรื่องเงินกู้ ซึ่งประสานไปยังสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) แล้ว คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากู้เงินประมาณเดือน ก.พ.-มี.ค.68 จากนั้นจะจัดเตรียมเอกสารออก NTP และจ่ายเงินก่อสร้างงวดแรกให้กับผู้รับจ้าง เพื่อดำเนินการก่อสร้างต่อไป โดยจะใช้เวลา 36 เดือน หรือ 3 ปี แล้วเสร็จ และสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2571 อย่างไรก็ตามรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย เป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม และก่อสร้างปรับแนวเส้นทางใหม่บางส่วน

นายวีริศ กล่าวต่อว่า มั่นใจว่างานก่อสร้างจะเดินหน้าได้ตามแผนงานที่วางไว้ โดยขณะนี้ รฟท. พร้อมส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นของ รฟท. ให้กับเอกชนแล้วประมาณ 90% ส่วนอีก 10% เป็นพื้นที่ชาวบ้านที่ต้องดำเนินการเวนคืนที่ดินประมาณ 184 ไร่ ประมาณ 369 ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการทยอยส่งมอบให้เอกชนแล้วเสร็จภายใน 2 ปี โดย รฟท. ได้ตั้งงบประมาณปี 2568-2569 เพื่อใช้สำหรับการเวนคืนที่ดินแล้ว อย่างไรก็ตาม รฟท. มีแผนผลักดันโครงการรถไฟทางคู่ เฟสที่ 2 ที่เหลืออีก 6 เส้นทาง วงเงินรวมประมาณ 2.85 แสนล้านบาท ใช้เงินกู้เช่นกัน เสนอต่อที่ประชุม ครม. ประมาณเดือน ม.ค.68 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเสนอ ครม.

ด้านนายอนันต์ เจนงามกุล วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง รฟท. กล่าวว่า หาก ครม. เห็นชอบตามกรอบเวลาที่วางไว้ คาดว่าจะทยอยเปิดประมูลโครงรถไฟทางคู่เฟสที่ 2 อีก 6 เส้นทาง ได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.68 เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดประมูล 2 เส้นทางแรกก่อน ได้แก่ ช่วงปากน้ำโพ– เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงิน 7.7 หมื่นล้านบาท และช่วงชุมทางถนนจิระ – อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงินประมาณ 4.29 หมื่นล้านบาท จากนั้นอีก 2 เดือนถัดไปประมาณเดือน มิ.ย.68 จะเปิดประมูลอีก 3 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงินประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท, ช่วงสุราษฎร์ธานี – ชุมทางหาดใหญ่ – สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงินประมาณ 6.45 หมื่นล้านบาท และช่วงชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงินประมาณ 7.7 พันล้าน

นายอนันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนอีก 2 เดือนถัดไป หรือประมาณเดือน ส.ค.68 จะเปิดประมูลเส้นทางสุดท้าย ได้แก่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงินประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงาน EIA (คชก.) แล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(กก.วล.) คาดว่าจะผ่านความเห็นชอบภายในปี 68 อย่างไรก็ตามในระหว่างที่รายงาน EIA ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ รฟท. สามารถเสนอเส้นทางนี้ไปยัง ครม. และเปิดประมูลควบคู่ไปกับการพิจารณารายงาน EIA ได้ เพียงแต่จะยังไม่สามารถลงนามสัญญากับผู้รับจ้างได้เท่านั้น ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายว่ารถไฟทางคู่เฟสที่ 2 ทั้ง 7 เส้นทางจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการทั้งหมดได้ภายในปี 76

ด้านผู้แทนจาก กิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง กล่าวว่า กิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง ประกอบด้วย บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด, บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง(1964) จำกัด, บริษัท ทิพากร จำกัด และ บริษัท เค เอส ร่วมค้า จำกัด มีความพร้อมที่จะก่อสร้างช่วงขอนแก่น-หนองคายแล้ว โดยเตรียมแรงงาน และเครื่อจักรไว้แล้ว ทันทีที่ได้รับมอบพื้นที่ก่อสร้างจาก รฟท. จะเข้าพื้นที่พร้อมกันทั้ง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น, อุดรธานี และหนองคายทันที โดยจุดแรกที่จะเข้าพื้นที่คาดว่าจะเป็นบริเวณย่านสถานี อย่างไรก็ตามจะพยายามเร่งรัดงานให้แล้วเสร็จตามสัญญา.