น.ส.อิงอร ปัญญากิจ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันส่วนใหญ่มีปัญหาด้านปริมาณและคุณภาพของผลผลิต ราคาจำหน่าย ราคาปุ๋ยที่สูงขึ้น และสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งกระทบต่อการผลิตปาล์มน้ำมัน ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน จึงได้จัดทำโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมปาล์มน้ำมัน โดยประมวลเทคโนโลยีการผลิตปาล์มน้ำมันที่ได้จากการศึกษาวิจัยหลายด้านอย่างต่อเนื่อง จัดเป็นแพ็กเกจหรือเป็นชุดเทคโนโลยีการจัดการการผลิตที่สนับสนุนการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย การให้น้ำด้วยระบบมินิสปริงเกลอร์ การจัดการธาตุอาหารตามผลวิเคราะห์ดิน-ใบ การเก็บเกี่ยวปาล์มน้ำมันคุณภาพ การประเมินปริมาณน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตโดยคํานวณปริมาณน้ำจากผลรวมของทุกขั้นตอนตลอดห่วงโซ่ของการผลิตปาล์มน้ำมัน การเพิ่มศักยภาพการใช้ที่ดินและประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ย และการเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของปาล์มน้ำมัน

น.ส.วิชณีย์ ออมทรัพย์สิน นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การดำเนินการในโครงการครั้งนี้ได้ปรับเปลี่ยนแนวคิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีโดยเปลี่ยนจากให้เกษตรกร “รับรู้” เป็น “เรียนรู้” โดยจัดฝึกอบรมและฝึกปฏิบัติให้แก่เกษตรกร และโครงการได้จัดซื้อวัสดุให้น้ำแบบมินิสปริงเกลอร์แก่เกษตรกรไม่เกิน 10 ไร่ต่อราย พร้อมอบรมวิธีการติดตั้งระบบให้น้ำโดยเน้นให้เกษตรกรเรียนรู้จากการปฏิบัติด้วยตนเอง ซึ่งการจัดการธาตุอาหารได้ตรงตามความต้องการของปาล์มน้ำมัน ส่งผลให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นได้เต็มศักยภาพของพันธุ์ปาล์มน้ำมัน เกษตรกรได้รับรายได้จากน้ำหนักผลผลิตทะลายที่เพิ่มขึ้น และไม่มีการคัดทะลายคืนกลับจากแหล่งรับซื้อ เนื่องจากเกษตรกรเก็บเกี่ยวปาล์มน้ำมันคุณภาพ 

ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานีจะให้ความรู้ทั้งหมดแก่เกษตรกรและมีนักวิชาการลงพื้นที่เก็บข้อมูลเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อนำไปวิเคราะห์คำนวณต้นทุนว่าต้นปาล์มแต่ละต้นใช้ต้นทุนเท่าไหร่ โดยมีตัวอย่างสวนปาล์มน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการปี 2562 คือ นายสัมพันธ์ ฉิมพักดี ข้าราชการครูบำนาญ ได้ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรชาวสวนปาล์มฯ ซึ่งจากการเข้าร่วมโครงการทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นตามลำดับจากปี 2562 ได้ผลผลิต 1.20 ตัน/ไร่  ปี 2563 ได้ผลผลิต 2.34 ตัน/ไร่ และปี 2564 ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 3.19 ตัน/ไร่  โดยภาพรวมได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปี 2562 กว่า 2 เท่า

ประเด็นสำคัญที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จคือการสร้างการรับรู้และความเข้าใจถึงกลไกธรรมชาติของปาล์มน้ำมันที่มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับผลผลิต ทำให้เกษตรกรเข้าใจว่าการให้น้ำและปุ๋ยมีความสัมพันธ์กันและมีผลต่อการให้ผลผลิตอย่างมาก โดยทะลายปาล์มที่ออกมาจากเกษตรกรภายในโครงการจะเป็นทะลายปาล์มที่มีอัตราการสกัดน้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งในปีต่อไป มีแผนที่จะขยายผลโครงการการใช้นวัตกรรมปาล์มน้ำมันไปยังสวนปาล์มน้ำมันของเกษตรกรอีก 5 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา เป้าหมายเกษตรกรรวมจำนวน 200 ราย ครอบคลุมพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันจำนวน 2,000 ไร่ ซึ่งในขณะนี้มีเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าว แจ้งความจำนงเข้าร่วมโครงการเกือบครบตามเป้าหมายแล้ว