น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม (วธ.)​ เปิดเผยว่า ได้รับทราบข่าวจากสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ว่า ตามที่สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ได้ส่งภาพยนตร์ไทยเรื่อง ‘หลานม่า’ ซึ่งสร้างโดย GDH เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าชิง รางวัลออสการ์ ครั้งที่ 97 สาขา ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ นั้น เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2567 เว็บไซต์ทางการของรางวัลออสการ์ ได้เผยแพร่ข้อมูลว่า ภาพยนตร์ไทยเรื่อง ‘หลานม่า’ ของ GDH ที่เป็นตัวแทนประเทศไทย ผ่านการคัดเลือกจากภาพยนตร์ต่างประเทศ 85 เรื่อง เป็น 1 ใน 15 เรื่องที่เข้ารอบรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 97 สาขา ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (ACADEMY AWARDS / BEST INTERNATIONAL FEATURE FILM SHORTLIST) จึงขอแสดงความยินดีกับทาง GDH และทีมงานทุกท่าน รวมถึงสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์โดยรวมของไทย ที่ประสบผลสำเร็จในการดำเนินงานครั้งนี้ ซึ่งประเทศไทยได้ส่งภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมชิงรางวัลออสการ์ มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2527 ร่วม 40 ปี ปีนี้เป็นปีแรก เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรก ที่ภาพยนตร์ไทยได้รับการคัดเลือกให้เข้ารอบเป็น 1 ใน 15 สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม จึงขอเชิญชาวไทยทุกคน ร่วมเชียร์และลุ้นต่อไป เพื่อให้ภาพยนตร์ไทยมีโอกาสได้รับรางวัลออสการ์

รมว.วธ. กล่าวต่อไปว่า ทางผู้จัดการคัดเลือกรางวัลออสการ์ จะมีการประกาศผลว่าภาพยนตร์ทั้ง 15 เรื่องนี้ เข้ารอบเป็น 5 เรื่องสุดท้าย ในวันที่ 17 ม.ค. 2568 และจะประกาศผลผู้ชนะเลิศ ในวันที่ 2 มี.ค. 2568 ขอเชิญชาวไทยทุกคน ร่วมลุ้นผลไปพร้อมกันว่าภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ จะสร้างประวัติศาสตร์อีกหน้า ได้เข้ารอบเป็น 1 ใน 5 เรื่องสุดท้าย และร่วมลุ้นให้ภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ ของไทย ได้รับรางวัลออสการ์ในครั้งนี้ด้วย

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ วธ. ร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ รวมทั้งคณะอนุกรรมการสาขาต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังเร่งผลักดันการส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ สารคดี แอนิเมชั่น อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้จะมีโครงการสำคัญที่กำลังดำเนินการ อาทิ การส่งเสริมการผลิต การพัฒนาบุคลากร การส่งเสริมตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการแก้ไขปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำร่างพ.ร.บ.ภาพยนตร์ พ.ศ. …. เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติแล้ว คาดว่าจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในสิ้นปีนี้