สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ว่า วุฒิสมาชิกสหรัฐมีมติเสียงข้างมาก 85 ต่อ 11 เสียง ในการประชุมเมื่อช่วงกลางดึกของวันศุกร์ที่ผ่านมา ผ่านกฎหมายงบประมาณระยะสั้นให้แก่รัฐบาลกลาง เพื่อการเพียงพอใช้จ่ายถึงวันที่ 14 มี.ค. 2568


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของวุฒิสภา เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเสียงข้างมาก 366 เสียง ต่อ 34 เสียง เมื่อช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ผ่านกฎหมายฉบับนี้ ส่วนขั้นตอนต่อจากนี้ เหลือเพียงให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามเท่านั้น

AFP


ทั้งนี้ แผนการใช้จ่ายที่จะมีการจัดสรรให้แก่ส่วนกลาง รวมถึงงบประมาณ 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.76 ล้านล้านบาท) เพื่อการใช้จ่ายด้านภัยพิบัติ และเพื่ออุดหนุนผลิตผลหลายชนิดของเกษตรกร

อย่างไรก็ตาม ไม่มีเนื้อหาตอนใดในกฎหมาย ที่ระบุถึงการระงับเพดานหนี้ของรัฐบาลกลาง เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ และนายอีลอน มัสก์ อภิมหาเศรษฐีนักธุรกิจ ที่มีบทบาทต่อทรัมป์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา และมัสก์ยังจะได้รับตำแหน่งผู้บริหาร ของหน่วยงานที่ตั้งขึ้นใหม่ด้วย แม้ไม่ใช่ระดับกระทรวงก็ตาม


การมีบทบาทของมัสก์ เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากพรรคเดโมแครต และสมาชิกจำนวนมากของพรรครีพับลิกัน ว่าเพราะเหตุใด “บุคคลซึ่งไม่มีสิทธิเลือกตั้งตามกฎหมายของสหรัฐ” จึงมีบทบาทในการบัญญัติกฎหมายของประเทศ อนึ่ง มัสก์เป็นชาวแอฟริกาใต้ แต่มีกรีนการ์ดเพื่อทำงานและอาศัยในอเมริกา.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES