จากกรณีมีผู้พบเห็นแสงปริศนาเหนือฟ้าเมืองไทย ลักษณะเป็นแสงสีขาว มีจุดสว่างหนึ่งจุด พร้อมฝ้าลักษณะฟุ้งออกไปรอบ ๆ เริ่มปรากฏให้เห็นทางทิศตะวันตกใกล้กับตำแหน่งของดาวศุกร์ จากนั้นเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ก่อนจะหายลับไป มีผู้พบเห็นในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก “NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ” ได้โพสต์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า “จากการตรวจสอบ พบว่าเมื่อเวลา 18.34 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยบริษัทเอกชนด้านเทคโนโลยีอวกาศในสหรัฐ ได้ปล่อยจรวดฟัลคอน 9 จากฐานปล่อยจรวดในฐานทัพอวกาศฟานเด็นเบร็ค รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา จากช่วงเวลาที่มีผู้พบเห็นแสงปริศนา ประกอบกับลักษณะของแสงกล่าว คาดว่าจะเป็นแสงที่ไอพ่นจรวดสะท้อนแสงอาทิตย์เมื่อจรวดอยู่ในอวกาศ เช่นเดียวกันกับกรณีที่มีผู้พบเห็นแสงปริศนาเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา”

อีกทั้ง สำหรับเที่ยวบินของ SpaceX ครั้งนี้มีชื่อว่า Bandwagon-2 บรรทุกดาวเทียมจำนวนมากจากลูกค้าที่เป็นหน่วยงานหรือบริษัทจากชาติต่างๆ เข้าสู่วงโคจรระดับต่ำรอบโลก (LEO) ตัวอย่างของดาวเทียมเหล่านี้ มีดังต่อไปนี้
1. 425 Project SAR Sat 2 คือ ดาวเทียมสังเกตการณ์ทางทหาร ของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้
2. LizzieSat-2 และ LizzieSat-3 คือ ดาวเทียมด้านอินเตอร์เนต ของ Sidus Space บริษัทเอกชนด้านเทคโนโลยีอวกาศในสหรัฐ
3. ICEYE-X2 คือ ดาวเทียมสังเกตการณ์การณ์โลกด้วยระบบเรดาร์ ของ ICEYE บริษัทด้านการสังเกตการณ์โลก รวมถึงการผลิตและจัดการดาวเทียมขนาดเล็ก ในฟินแลนด์
4. Hawk 11A,11B,11C คือ ดาวเทียมด้านข่าวกรองทางสัญญาณ จาก HawkEye 360 บริษัทเอกชนสหรัฐ ด้านการเก็บ-วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาตำแหน่งด้วยสัญญาณคลื่นวิทยุ โดยใช้เครือข่ายดาวเทียม
5. Crocube คือ ดาวเทียมขนาดเล็กสำหรับสังเกตการณ์โลกดวงแรก ของประเทศโครเอเชีย
6. LASARSat คือ ดาวเทียมขนาดจิ๋วสำหรับสาธิตเทคโนโลยี ของประเทศเช็กเกีย
7. XCUBE-1 คือ ดาวเทียมขนาดจิ๋วสำหรับสังเกตการณ์โลก ของ Xplore บริษัทเอกชนด้านเทคโนโลยีอวกาศในสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าเรามีโอกาสพบเห็นแสงในลักษณะนี้ได้บ่อยยิ่งขึ้น ในยุคที่เทคโนโลยีอวกาศกำลังก้าวหน้า ถือเป็นเรื่องปกติ และไม่ต้องตื่นตระหนกอีกด้วย..

ขอบคุณข้อมูล : NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ