สุชญา ล่ำภากร Senior Sales Manager และ Green Team Manager โรงแรมอัปสรา บีช ฟร้อนท์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า อยู่ที่เขาหลัก จ.พังงา หนึ่งในโรงแรมแถวหน้าที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมแพลตฟอร์ม CF-Hotels เปิดเผยว่า โรงแรมอัปสราฯ เป็นโรงแรม 4 ดาว มีจำนวน 8 อาคาร รวม 255 ห้อง และวิลล่า 60 ห้อง รูปแบบ Thai Contemporary Style เป็นโรงแรมของคนไทยบริหารโดยคนไทยมาอย่างยั่งยืนถึง 17 ปี ด้วยวิสัยทัศน์ที่กลายเป็นจุดขายชัดเจน คือการเป็นโรงแรมที่เป็นมิตรกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งในระดับประเทศ และสากล รวมถึงแพลตฟอร์ม CF-Hotels ของททท.ตัวช่วยเก็บสถิติเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่โรงแรมยอมรับว่าเป็นตัวช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อม กำลังซื้อสูง เข้ามามากขึ้น และทำให้การขอรับการรับรองมาตรฐานที่สูงขึ้นทำได้ง่ายขึ้น

ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน โรงแรมอัปสราฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม 3 แห่ง ได้แก่ Green Hotel, Asian Green Hotels และ Travel Life พาร์ทเนอร์ TUI ด้วยจุดยืนด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยทางโรงแรมมุ่งมั่นจะเข้าร่วมการรับรองมาตรฐานอื่นๆที่สูงขึ้นต่อไป เนื่องจากเจ้าของโรงแรมมีความเข้าใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดีและต้องการพัฒนาต่อไปสู่ระดับสูงสุด การเข้าร่วมกับแพลตฟอร์ม CF-Hotels ของ ททท.เมื่อต้นปี 2566 โรงแรมอัปสราฯ ยอมรับว่า เป็นเรื่องใหม่มากเพราะเป็นครั้งแรก ที่มีการเก็บข้อมูลกิจกรรมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่มีประโยชน์มาก เพราะแพลตฟอร์มช่วยเก็บข้อมูลสถิติการใช้น้ำมัน น้ำ ไฟฟ้า และการจัดการขยะ มีสถิติการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นตัวชี้วัด เหล่านี้ทำให้พนักงานและผู้บริหารตระหนักรู้เรื่องก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น และการเก็บข้อมูลถือเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดนโยบายการบริหารงานปีถัดไป

“ข้อมูลเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสามารถนำไปอ้างอิงเพื่อขอการรับรองมาตรฐานอื่นๆระดับสากลได้ เช่น Travel Life เป็นต้น เพราะข้อมูลจากแพลตฟอร์ม CF-Hotels มีมาตรฐานการรับรองผ่านการตรวจสอบ (AUDIT) มาแล้วอย่างชัดเจน เพียงปีแรกที่เข้าร่วมโรงแรมอัปสราฯ ก็สามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 160 ตันคาร์บอน ปี 2567 คาดว่า จะทำได้ในปริมาณใกล้เคียงกัน”

นอกจากนี้โรงแรมอัปสราฯ ยังมีกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเติมหลายกิจกรรม ได้แก่ การปลูกต้นไม้ การใช้หลอดประหยัดไฟ การคัดแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งขยะ Recycle ขยะอินทรีย์ ขยะเศษอาหาร มีการรณรงค์ให้ลูกค้า และพนักงานรับประทานอาหารให้หมดไม่เหลือทิ้ง เป็นการลด Food Waste โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้มีการปรับปรุงห้องพักเกิดขึ้นในรอบ 17 ปี จึงมีการนำหลักการ Circular Economy การนำของเก่ากลับมาใช้ใหม่ เพราะต้องการลดการเกิดขยะให้มากที่สุด หากใช้ของใหม่ทั้งหมดจะยิ่งสร้างขยะจำนวนมาก จึงมีผลต่อการบริหารจัดการเรื่องขยะอย่างเข้มงวดโดยหนึ่งในเป้าหมายคือ เพิ่มกิจกรรมการลดก๊าซเรือนกระจกให้มากขึ้น เพื่อยืนหยัดในการทำธุรกิจไปพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยหวังให้พื้นที่เขาหลัก มีความยั่งยืน และมีความเท่าเทียมกันด้านสิ่งแวดล้อม การพัฒนาสังคมชุมชน และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับ Circular Economy ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

โรงแรมยังมีโปรแกรมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco Program) สำหรับลูกค้า เช่น ลดซัก ลดเปลี่ยนผ้าเช็ดตัว โดยมีการสื่อสารกับลูกค้าทั้งทางตรงคือ แสดงสัญลักษณ์การรับรองจากหน่วยงานต่างๆ และทางอ้อม คือการสร้างการรับรู้ผ่านกิจกรรม Low Carbon จนถึง Zero Carbon เช่น การเล่นเซิร์ฟในทะเล การเก็บไข่ในฟาร์มไก่ภายในสวนครัวโรงแรม ชมแปลงปลูกผักปลอดสารพิษ หรือเดินเล่นชมสวนพื้นที่สีเขียว โดยปีหน้าจะมีการเพิ่ม GIMMICK เพิ่มความน่าสนใจให้กิจกรรมมากขึ้น คือ การแสดงจำนวนการลดก๊าซคาร์บอน ตอบโจทย์ความต้องการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของแขกที่มาพัก เพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้าสายสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น หัวใจสำคัญคือ การให้ความรู้ ความเข้าใจกับพนักงานได้รับรู้เป้าหมายของโรงแรมที่ต้องการขับเคลื่อนความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมว่าจะไปถึงขั้นไหน และการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่มุ่งหวังให้ โรงแรม และคู่ค้าซัพพลายเออร์เดินไปในทิศทางเดียวกัน

นางสุชญา ยอมรับว่า กิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมเป็นตัวช่วยสำคัญทำให้โรงแรมมีความสามารถด้านการแข่งขันในตลาด การกรอกข้อมูลในแพลตฟอร์ม CF-Hotels ของททท. ซึ่งเป็นข้อมูลการลดก๊าซเรือนกระจก ประกอบกับโรงแรมมุ่งหวังจะก้าวไปสู่ Sustainable Hotel สอดคล้องกับ Trend ด้านสิ่งแวดล้อมของโลก รองรับลูกค้าที่กำลังมองหาโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตราสัญลักษณ์การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมยินดีจ่ายเงินสูง สิ่งเหล่านี้มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันได้ในตลาดท่องเที่ยวของโรงแรมให้สูงขึ้น เพราะลูกค้ามั่นใจว่าได้มีส่วนช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมอีกทาง กลุ่มเป้าหมายหลัก 90% เป็นชาวต่างชาติ ได้แก่ อังกฤษ เยอรมัน และประเทศแถบสแกนดิเนเวีย กลุ่มที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและมีกำลังซื้อสูง

“เชื่อมั่น คำว่า Green หรือ Sustainable มีแรงดึงดูดลูกค้าที่มีหัวใจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และมีกำลังซื้อสูง มาให้โรงแรม เนื่องจาก Destination ของโรงแรมอยู่ในพื้นที่เขาหลัก จ.พังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ ททท.จัดให้เป็น Low Carbon Activities ทำให้โรงแรมในบริเวณนี้ร่วมมือกันทำกิจกรรมตอบแทนธรรมชาติ เก็บขยะชายหาด และ เก็บขยะที่เกาะสิมิลัน ก่อนเปิดฤดูการท่องเที่ยวรองรับลูกค้าชาวไทย และต่างชาติ ที่จะเดินทางมาพักผ่อนทำกิจกรรมเล่นเซิร์ฟซึ่งกลุ่มนี้รักธรรมชาติมาก ระหว่างเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม ทะเลเขาหลักจะเหมาะกับการเล่นเซิร์ฟมาก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเวิร์คช้อป Upcycling ประดิษฐ์ของที่ระลึกจากขยะทะเลอีกด้วย

อนาคตอันใกล้นี้เชื่อว่า โรงแรมและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เขาหลัก ทุกกิจการจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปจนเป็น Sustainable Tourism เต็มตัว เพราะงานบริการท่องเที่ยว และบริการของโรงแรมต้องอาศัยธรรมชาติของเขาหลัก และเกาะแก่งต่างๆ ดังนั้นโรงแรมอัปสรา บีชฟร้อนท์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า จึงมุ่งมั่นทำกิจกรรมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมต่อไปจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเราชาวอัปสรา เริ่มจากกลุ่มเล็กๆคือ พนักงาน ขยายไปสู่ครอบครัวของพนักงาน และชุมชน สังคมที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ตั้งเป้าปี 2568 – 2569 จะเข้าสู่การรับรองของ Green Hotels Plus :ซึ่งเป็นการรับรองระดับสากล

“เราหนีไม่พ้นกระแสเรื่องความยั่งยืน Sustainable แล้ว เขาจะอยู่กับเราไปอีกนาน เราต้องปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ เพราะธรรมชาติให้ประโยชน์กับเรามากมาย ดังนั้นหน้าที่สำคัญคือ ต้องดูแลอย่างดีที่สุด”