จากกรณีมหาวิทยาลัยสยาม จัดโครงการอบรมอาสาตำรวจคนจีน โดยเก็บค่าอบรมหัวละ 38,000 บาท โดยมีตำรวจ กก.สส.บก.น.3 เป็นวิทยากร ภายหลังมีการแจ้งความเอาผิดผู้แอบอ้างนำโลโก้ตราสัญลักษณ์ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีทั้งตราสัญลักษณ์ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปใช้โฆษณาชักชวนให้เข้าร่วมสมัครอบรมในโครงการอาสาแจ้งข่าวอาชญากรรม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ม.ค. พ.ต.อ.กิตติพงศ์ พันธ์ศรี รอง ผบก.น.9 ในฐานะรักษาราชการแทน ผู้กำกับการ สน.ภาษีเจริญ เปิดเผยว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายหมิง หลง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสมาคมการค้าวาณิชธุรกิจไทย-จีน ในข้อหาใช้เครื่องหมายราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 ซึ่งนายหมิง เป็นผู้จัดและชักชวนบุคคลภายนอกซึ่งเป็นชาวจีน จำนวน 13 คน มาเข้าอบรมและเก็บค่าอบรม เมื่อวันเสาร์ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นเป็นการเข้ามามอบตัว จึงปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยนายหมิง ให้การภาคเสธ และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติมว่ามีบุคคลใดนำสัญลักษณ์ไปใช้โฆษณาชักชวนหรือไม่

อธิการบดีม.สยาม แจงหลักสูตรอาสาตำรวจบ้านเป็นการทำของบุคลากรภายในโดยพลการ

ส่วนชาวจีนที่เข้ามาอบรมจำนวน 13 คน เบื้องต้นสอบปากคำไปแล้ว 2 คน ให้การเบื้องต้นไม่ประสงค์แจ้งความกรณีถูกเรียกเก็บเงิน ซึ่งจ่ายเป็นเงินจำนวน 33,000 บาท จากราคา 38,000 บาท เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่การอบรมจากพัทยามาเป็นมหาวิทยาลัยดังกล่าว ส่วนที่เหลืออีก 11 คน ตำรวจอยู่ระหว่างประสานเข้ามาให้ข้อมูล ซึ่งทราบเบื้องต้นว่ามีบางคนเดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้ว ส่วนนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชาวจีนที่เข้าอบรม จำนวน 13 คน และคนไทย 1 คน ส่วนนี้ไม่ได้เรียกเก็บเงิน

ขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตัวแทนอธิการบดีของมหาวิทยาลัยสยาม เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ให้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการที่จัดขึ้น โดยเปิดเผยว่า เป็นตัวแทนเข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ โดยไม่ให้ข้อมูลหรือรายละเอียดกับผู้สื่อข่าว

พ.ต.อ.กิตติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนรายละเอียดในการจัดอบรมโครงการดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำ และเตรียมประสานข้อมูลกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดในส่วนอื่นหรือไม่ หากพบมีการกระทำความผิดเพิ่มเติมก็ต้องดำเนินคดี.