กลุ่มผู้เสียหายจากวงแชร์ “บ้านกาน” กว่า 20 คน ถือป้ายชูข้อความหน้าโรงพักท่ามะกา จ.กาญจนบุรี หลังถูกเท้าแชร์ล้มโต๊ะแชร์เสียหายกว่า 3 ล้านบาท กลุ่มผู้เสียระบุเท้าแชร์คนนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ด้านตำรวจรับหลักฐานแล้วเตรียมเรียกผู้เสียหายและคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย หากเจรจาไม่ลงตัวก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 68 ผู้เสียหายจากวงแชร์ “บ้านกาน” กว่า 20 คน นำโดย น.ส.ศรีแพร รู้ทัน อายุ 43 ปี นำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่ามะกา ว่าถูก น.ส.เอ (นามสมมุติ) ล้มโต๊ะแชร์มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท โดยมี พ.ต.ท.ธนพล แสงงาม รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่ามะกา เป็นผู้รับมอบหลักฐาน หลังจากนั้นกลุ่มผู้เสียหายได้ชูป้ายข้อความหน้าโรงพัก ป้ายระบุว่า “กินดีอยู่ดีคืนหนี้หน่อยนะ” “อย่าต้องให้ตามมันเหนื่อย” “เอาเงินฉันคืนมา” “ตั้งแต่ได้เงินไปเงียบหายเลยนะ” “จะโพสต์อวดเกรงใจเจ้าของเงินด้วย” เป็นต้น

น.ส.ศรีแพร หนึ่งในผู้เสียหายสูญเงิน 780,000 บาท ให้ข้อมูลว่า รู้จักกับเท้าแชร์คนนี้ได้ประมาณ 5 ปี เนื่องจากเป็นคนแถวบ้าน แล้วก็ถูกชักชวนให้เล่นแชร์ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่น่าวิตกกังวล เพราะเท้าแชร์คนดังกล่าวนี้เป็นคนทำมาหากิน นิสัยน่ารัก อาจจะปากร้ายไปบ้างแต่ก็เป็นคนตรงๆ ก็เลยไว้ใจ แล้วก็ได้ส่งมาตลอด ซึ่งตอนแรกก็ส่งไม่เยอะ ต่อมาก็เริ่มส่งเป็นวงละแสนจากนั้นก็เริ่มได้วงใหญ่ๆ มาวงละ 3-4 แสนบาท แต่ตอนนั้นเริ่มทำงานอยู่ที่ต่างประเทศแล้ว ไม่มีเวลามานั่งใส่ดอก ก็เลยจะเอาเงินออก 4 แสนบาท แต่ปรากฏว่าเท้าแชร์โทรฯ มาบอกว่า “โต๊ะแชร์ไปต่อไม่ไหวแล้ว ขอหยุดบ้านแชร์แค่นี้” แล้วบอกว่าหลังจากนี้เดี๋ยวจะทยอยชดใช้ให้

น.ส.ศรีแพร บอกต่อว่า หากจะชดใช้ขอเป็นยอดครึ่งหนึ่งคือเงิน 4 แสนบาท ที่เหลือก็จะให้ผ่อนจ่าย ซึ่งตนเห็นว่าเท้าแชร์คนดังกล่าวเก็บทองไว้เยอะมาก และมีทรัพย์สินอะไรเยอะมาก ต่อมาตนก็ติดต่อเท้าแชร์คนดังกล่าวนี้ไปแต่คำตอบที่ได้คือไม่มีเงินมาจ่ายให้ ทำให้ตนและผู้เสียหายทั้งหมดรวมตัวกันมาร้องทุกข์กับตำรวจ พร้อมติดต่อทนายให้ช่วยเหลือในเรื่องคดี ตอนนี้ในทีมที่มีกันอยู่ประมาณ 13 คน โดยวงแชร์มีทั้งหมด 11 วง แล้วก็คือทุกวงยังไม่ได้เปียแชร์เลยสักวง ส่วนสมาชิกในวงแชร์ตอนนี้อยู่ที่ 167 คน ยอดอยู่ทั้งในบ้านและนอกบ้านที่เท้าแชร์ไปเอาเงินมาอีกรวมแล้วน่าจะประมาณ 3 ล้าน สุดท้ายนี้ก็อยากให้เท้าแชร์เข้ามาพูดคุยหรือเยียวยาเป็นงวด แต่ไม่ใช่จ่ายให้ทีละ 300 บาท 100 บาท 1,000 บาท แบบนี้มันไม่โอเค เพราะยอดที่ส่งไปมันเยอะ แล้วจะมาให้เหมือนเศษเงินแบบนี้มันไม่ไหว

พ.ต.ท.ธนพล แสงงาม รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่ามะกา หลังจากรับมอบหลักฐานแล้ว ได้บอกกับกลุ่มผู้เสียหายว่า จากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะเรียกผู้เสียมาสอบสวน แล้วจะมีการเรียกคู่กรณีมาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน หากตกลงกันไม่ได้ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.