เลือดถูกส่งไปทั่วร่างกายผ่านหลอดเลือด เพื่อให้ร่างกายทำงานปกติ จึงต้องทะนุถนอมรักษาหลอดเลือดและผนังหลอดเลือดให้เรียบเนียน ไม่บุบสลาย แต่ถ้าเรารับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ก็เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือด เช่น การอุดตันของหลอดเลือดแดงแข็ง ไขมันในเลือด ความดันโลหิต โรคหลอดเลือดหัวใจ และแม้แต่โรคหลอดเลือดสมอง
เมื่อพูดถึงอาหารที่ไม่ดีต่อหลอดเลือด ผู้คนมักนึกถึงอาหารฟาสต์ฟู้ด เนื้อสัตว์แปรรูป น้ำอัดลม เบียร์ เหล้า ไม่มีใครคิดว่า “ผัก” จะเป็นอันตราย ผักที่ผ่านกระบวนการปรุงแบบนี้ หากทานเข้าไปเหมือน “วางยาพิษ” ตัวเอง การกินในปริมาณที่มากเกินไป จะส่งผลเสียร้ายแรงต่อหลอดเลือดเร็วกว่าเนื้อสัตว์ติดมันเสียอีก นั่นก็คือ “ผัดผัก” และ “ผักทอด”
ทำไมการทาน “ผัดผัก” กับ “ผักทอด” เยอะๆ ถึงทำร้ายหลอดเลือด?
ผัดผักที่มันเยิ้มอาจเป็นอาหารจานโปรดของหลายๆ คน เนื่องจากมีรสชาติที่อร่อย อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกคำเตือนให้ประชาชนหยุดรับประทานผัดผัก เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะหลอดเลือด
“ผัก” เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีแคลอรีต่ำ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์ แต่หลังจากการทอดหรือผัดด้วยน้ำมันจำนวนมาก ปริมาณไขมันจะเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่สารอาหารจำนวนมากจะลดลง เมื่อเราบริโภคผัดผักที่มีน้ำมันเยิ้ม น้ำมันจะไปอุดตันในหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงต่อการอุดตันของหลอดเลือด
กระบวนการทอดจะทำให้น้ำมันได้รับความร้อนที่อุณหภูมิสูง กรดไขมันในน้ำมันจะถูกออกซิไดซ์ได้ง่าย ทำให้เกิดสารประกอบที่เป็นพิษ เช่น ไขมันทรานส์ สารเหล่านี้จะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และลดคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) จึงช่วยเร่งกระบวนการหลอดเลือดแข็งตัว และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ
โดยเฉพาะผักทอดเป็นอันตรายต่อหลอดเลือดมากกว่าผัดผัก เนื่องจากชั้นแป้งที่อยู่รอบๆ ผักจะดูดซับน้ำมันไว้มากมาย ซึ่งเป็นพิษต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
ดังนั้น ผักประเภททอด หรือชุบเกล็ดขนมปังแล้วทอด แบบเทมปุระ จึงเป็นพิษต่อหลอดเลือด การรับประทานมากๆ และบ่อยๆ ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือด แต่หลอดเลือดจะถูกทำลายด้วย แถมยังทำให้อ้วน และเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
ผัก 6 ชนิดที่ดีต่อหลอดเลือด ควรรับประทานเป็นประจำ และควรหลีกเลี่ยงการนำผักไปทำผัดผัก หรือทอดชุบเกล็ดขนมปัง
- มะเขือยาว: อุดมไปด้วยวิตามินพี (ฟลาโวนอยด์) มะเขือยาวช่วยเสริมสร้างการยึดเกาะระหว่างเซลล์ เพิ่มความยืดหยุ่นของเส้นเลือดฝอย และป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัว
- บรอกโคลี: ประกอบด้วยไอโซไทโอไซยาเนต และซัลโฟราเฟน บรอกโคลีช่วยลดการอักเสบ ปกป้องหลอดเลือดจากความเสียหาย และช่วยลดคอเลสเตอรอล
- หัวหอม: ประกอบด้วยสารประกอบซัลไฟด์ และสารต้านอนุมูลอิสระ หัวหอมช่วยลดคอเลสเตอรอล ต่อสู้กับอาการอักเสบ และปรับปรุงความยืดหยุ่นของหลอดเลือด
- ขึ้นฉ่าย: อุดมไปด้วยแร่ธาตุและเส้นใย ขึ้นฉ่ายช่วยควบคุมความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด และทำให้หลอดเลือดไม่อุดตัน
- แครอท: ให้แคโรทีนและโพแทสเซียมทางชีวภาพ แครอทละลายคราบพลัคในหลอดเลือด ลดความหนืดของเลือด และเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
- ผักโขม: อุดมไปด้วยไนเตรตธรรมชาติ ผักโขมช่วยขยายหลอดเลือด ลดความดันโลหิต และปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต.
ที่มาและภาพ: Sohu, Eat This, freepik