เมื่อวันที่ 12 ม.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ว่า ตนได้เห็นกำหนดการเดินสายปราศรัยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.นครพนม บึงกาฬ หนองคาย และมหาสารคาม ในวันที่ 18-20 ม.ค. 2568 จากนั้นจะเดินทางไปหาเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทยใน จ.ศรีสะเกษ วันที่ 24-25 ม.ค. 2568 ทั้งนี้ ในความเป็นจริง นายทักษิณไม่ได้มีเป้าหมายหลักในการหาเสียงให้กับผู้สมัครนายก อบจ. แต่ต้องการใช้เวทีนี้ขยายผลไปยังการเมืองระดับชาติ โดยนายทักษิณจะขึ้นปราศรัยในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของรัฐบาล ทั้งที่ตัวนายทักษิณไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล แต่กลับประกาศนโยบายและแผนงานที่จะทำของรัฐบาล จนอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในคะแนนนิยมของตัวผู้สมัครได้
นายเทพไท ระบุอีกว่า โดยการปราศรัยของนายทักษิณ ที่ จ.อุดรธานี อุบลราชธานี และเชียงราย มีการพูดหาเสียงให้กับผู้สมัครนายกอบจ.เพียง 5 นาที หลังจากนั้นจะปราศรัยในประเด็นการเมืองอื่นๆ พาดพิงไปทุกภาคส่วนจนเป็นประเด็นร้อน ทำให้สื่อมวลชนต้องนำไปขยายผล และผู้ที่ถูกพาดพิงก็ใช้สิทธิตอบโต้ มีการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นของนายทักษิณอยู่หลายวัน ทำให้กระแสของนายทักษิณอยู่ในหน้าสื่อตลอดเวลา ประสบความสำเร็จตามแผนการโฆษณาทางการเมืองที่วางไว้
นายเทพไท ระบุว่า สิ่งที่นายทักษิณปราศรัยหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในฐานะผู้ช่วยผู้หาเสียง ซึ่งนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แสดงความเห็นไว้เบื้องต้น แต่ยังไม่ฟันธงว่านายทักษิณทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ตนจึงอยากให้ กกต.เร่งสรุปว่าการปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณฝ่าฝืนหรือผิดกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ เพื่อจะไม่ให้เป็นประเด็นข้อกฎหมายต่อไป เพราะการหาเสียงของนายทักษิณทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในระหว่างผู้สมัครด้วยกัน แต่ถ้า กกต.ยังปล่อยให้นายทักษิณปราศรัยหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดกฎหมายเช่นนี้ และไปสรุปหลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว ก็อาจช้าเกินไป จนอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และต้องจัดเลือกตั้งใหม่ ซึ่งทำให้ผู้สมัครนายก อบจ.หลายคนเสียโอกาส และเสียงบประมาณของราชการโดยไม่จำเป็น
“อยากขอความชัดเจนจาก กกต.ออกมาความระเบียบ และกำชับให้นายทักษิณปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด กล้าๆ หน่อย อย่าเกรงกลัว เกรงใจคนทำผิดกฎหมายอีกเลย” นายเทพไท ระบุ