คนไทยป่วยโรคปอดสูง

PM2.5 เป็นสาเหตุของหลายโลก งานวิจัยของ Prakash Thangaval และคณะ (2565) ที่ศึกษาผลกระทบของ PM2.5 ใน 195 ประเทศทั่วโลก ระบุว่า PM2.5 อยู่ใน 10 อันดับแรกของสาเหตุของภาระทางสุขภาพของโลก โดยเป็นสาเหตุของหลายโรคร้าย เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจขาดเลือด และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

องค์การระหว่างประเทศด้านวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็ง (Intrenational Agency for Research on Cancer:IARC) ขององค์การอนามัยโลก (2559) ระบุว่าฝุ่นหรือมลพิษทางอากาศถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสาเหตุแห้งโรคมะเร็ง เนื่องจากมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าฝุ่นก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอด โดยอยู่ในกลุ่มเดียวกับสาเหตุของโรคมะเร็งอื่น ๆ อย่างการสูบบุหรี่ รังสียูวี และแร่ใยหิน โดยยอดผู้ป่วยมะเร็งปอดในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี

เช่นเดียวกับจำนวนผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษ โดยเพิ่มขึ้นจาก 122,104 ราย ในปี 2536 เป็น 242,962 รายในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยแบบรายปีอยู่ที่ร้อยละ 25

ฝุ่นมีความสัมพันธ์กับโรคทางจิตเวช

ฝุ่นPM นอกจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพจิตด้วยเช่นกัน รายงานจากคู่มือเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และภัยที่คุกคามสุขภาพจากฝุ่นละอองไม่เกิน 2.5ไมครอนของกรมควบคุมมลพิษ (2564 ) อ้างอิงถึงการศึกษาในปัจจุบันที่พบว่าฝุ่นPM2.5 มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคทางจิตเวช เนื่องจากการอักเสบของหลอดเลือดและระบบประสาท มีผลต่อการทำงานของสารสื่อประสาท อันนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า ภาวะเครียด ไปจนถึงการฆ่าตัวตาย

ทั้งนี้ฝุ่น PM 2.5 ทำให้ประเทศต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ป่วยจากโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ ข้อมูลจาก Health Data Center ของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าในช่วงปี 2563-2566 ประเทศไทยมีผู้ป่วยจากโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้นทุกปี โดยมีจำนวน 11,233,844 รายในปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 6,883,560 รายในปี 2563 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 63 ในระยะเวลาเพียง 3 ปีหรือคิดเป็นอัตราการเติบโตแบบเฉลี่ยรายปีที่ร้อยละ 17

ความหวังพ.ร.บ.อากาศสะอาดหยุดฝุ่น PM

ประเทศไทย ได้ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ… (หรือร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด) มาตั้งแต่ปี 2563 โดยมีการนำเสนอร่างด้วยกันจำนวน 7 ร่าง

       1. ร่าง พ.ร.บ. กำกับดูแลการจัดการอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพแบบบูรณาการ พ.ศ. …. เสนอโดย คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม (ประชาชน 22,251 รายชื่อ)

       2.ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดเพื่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน พ.ศ.…. เสนอโดย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ กับคณะ (พรรคเพื่อไทย)

       3.ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดเพื่อประชาชน พ.ศ.…. เสนอโดย อนุทิน ชาญวีรกูล กับคณะ (พรรคภูมิใจไทย)

       4.ร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ.…. เสนอโดย สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) โดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) (รัฐบาล)

       5.ร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ.…. เสนอโดย ตรีนุช เทียนทอง และคณะ (พรรคพลังประชารัฐ)

       6.ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ พ.ศ. …. เสนอโดย วทันยา บุนนาค และคณะ (พรรคประชาธิปัตย์)

       7.ร่าง พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน พ.ศ..… เสนอโดย ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ และคณะ (พรรคก้าวไกล)

สรุปสาระสำคัญของสิทธิในการที่จะมีอากาศสะอาด เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน กลไกเครื่องมือสำคัญทางด้านเศรษฐศาสตร์และกองทุน ผู้ก่อมลพิษต้องเป็นผู้จ่ายรับผิดชอบความเสียหายต่อสุขภาพและเศรษฐกิจ การกำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศสะอาด ระบบฐานข้อมูลคุณภาพอากาศแห่งชาติ และระบบเฝ้าระวังคุณภาพอากาศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการที่ต้องรวมร่างฯ ทั้ง 7 ฉบับที่เสนอจากภาคการเมืองและภาคประชาชนให้เป็นร่างเดียวกัน มีความคืบหน้าแล้ว 90% คาดว่าภายในปี 2568 กฎหมายจะประกาศบังคับใช้.