จากกรณีที่ “เบสท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์” ลูกสาวคนเก่งของ “สมรักษ์ คำสิงห์” ได้โพสต์อินสตาแกรมเมื่อช่วงปลายปี 2567 ขณะอยู่หน้าห้องไอซียู พร้อมแจ้งว่าสมรักษ์ มีอาการเส้นเลือดในสมองตีบ (ข้างขวา) เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จึงต้องนอนดูอาการที่ห้องไอซียู ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
‘เบสท์ รักษ์วนีย์’ เผย ‘สมรักษ์’ ยังน่าห่วง หมอพบภาวะหยุดหายใจขณะหลับ!

ล่าสุดในงานแจกปฏิทินช่องวัน สาวเบสท์ ได้อัปเดตอาการป่วยของคุณพ่อ พร้อมทั้งเผยเรื่องหัวใจที่ปีนี้ขอรับงานรัวๆ โดยเธอได้เผยว่า “ช่วงเคานท์ดาวน์ก็อยู่บ้านนั่งดูไลฟ์สด ไม่ได้มีแพลนไปเที่ยวไหนเพราะว่าคุณพ่อป่วยด้วย และตอนนั้นน้องชายก็คือแขนหัก ก็เลยต้องอยู่บ้าน ซึ่งจริงๆ ป่วยตั้งแต่ปลายปีแล้ว แต่ว่าหายทันเมื่อไม่กี่อาทิตย์ของเดือนมกราคม ช่วงเคานท์ดาวน์มันก็เลยไม่มีแพลนไปไหนเลย ส่วนเรื่องพวกมรสุมก็มีมาตั้งแต่ปี 2023 แล้ว พอ 2024 มาเจอก็ไม่ได้ตกใจเท่าไหร่ แต่ก็ตกใจนิดนึงตรงที่คุณพ่อป่วยเพราะว่า ด้วยความที่ในบ้านไม่เคยมีใครป่วยหนักขนาดนี้ แต่ถ้ามรสุมข่าวหรือกระแสดราม่าเป็นปกติเลย เราไม่ได้แข็งแรง คือเราโตขึ้น เราเริ่มรู้แล้วว่าเราต้องทำอย่างไร

ส่วนอาการของคุณพ่อตอนนี้ก็คือดีขึ้นแล้วก็กินยา แต่กินยาต้องกินตลอดชีวิตอยู่แล้ว แต่ว่าเขาสามารถขับรถได้แล้วตอนนี้ ซึ่งต้องเข้าพบหมอเดือนละครั้ง เพราะหมอเขาจะมีสมุดให้บันทึก เขาก็จะดูจากที่เราบันทึกว่า โอเคมั้ย เราควรจะขยับไปขนาดไหน ตอนนี้ขับรถได้แล้ว อนาคตอาจจะขับได้ไกลขึ้น หรือเดินทางไปต่างประเทศได้ คุณหมอเขาก็จะคอยบอก คือต้องอยู่ในมือหมอตลอด เพราะเส้นเลือดในสมองตีบเป็นอาการที่เรียกว่าอันตราย คือพ่อเราต้องกินยาตลอดชีวิตด้วย และหมั่นหาหมอตลอดด้วย แต่ตัวหนูทำงาน หนูก็เลยต้องให้แม่กับโบ๊ทดูแล แต่โบ๊ทก็ไม่อยู่นะ ไปเตะบอล ก็ให้ที่บ้านดูแล ถามว่าเราทำงานหนักเหนื่อยไหม ซึ่งเราอาจจะทำมาหนักมาก่อนหน้านี้แล้วเราก็เลยสามารถเซฟค่าใช้จ่ายได้หรือว่ายังมีพอที่ดูแลคุณพ่อคุณแม่ คือก่อนหน้านี้เราค่อนข้างที่จะรับงานเยอะ เคยรับละคร 3 เรื่องติด ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับละครอะไรก็เน้นทำออนไลน์ แต่ปีนี้รับงานแล้วค่ะ

สำหรับคุณพ่อก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติประมาณ 85% เต็มร้อย คือเขาก็ปกติแต่แค่คุณหมอเขากลัวว่า เวลาที่เราใช้ร่างกายปกติ แล้วเราไม่รู้ว่าข้างในของร่างกายเรามันเป็นยังไง ก็อาจจะชักได้หรือหัวใจเขาเต้นไม่ปกติ จะเต้นช้า อาจจะหัวใจวายได้ ถ้าเกิดอยู่ๆ เราเหนื่อยมากๆ มันอาจจะเกิดขึ้นได้ ไม่ได้หายไปร้อยเปอร์เซ็นต์ พอคุณพ่ออาการดีขึ้น เราก็โล่ง จริงๆ โล่งตั้งแต่ช่วงที่คุณพ่อออกจากห้องไอซียูแล้วเพราะว่าเขาเริ่มขยับได้แล้ว ตอนแรกเขาขยับไม่ได้เลยแล้วก็พูดไม่รู้เรื่อง แต่ว่าตอนนี้คือปกติแล้ว เราก็เลยโล่งดี ส่วนกระแสความเป็นห่วงของแฟนคลับ คุณพ่อน่าจะรู้เพราะอัพทุกวันอยู่แล้ว ออกกำลังกายก็อัพ พยายามจะบอกทุกคนว่าแข็งแรง แต่ว่าชาวเน็ตไม่เชื่อ คือหลายคนเขาก็จะรู้ว่าอาการนี้ต้องรักษาตลอด มีคอมเมนต์นึงบอกว่าอย่าออกกำลังกายหนักนะ คือคอมเมนต์เขายังต้องบอกพ่อ ซึ่งมันเป็นโรคที่น่ากลัวสำหรับคนไทย ก็อยากจะแชร์ว่า หมั่นทำประกันกันนะ เพราะว่าเวลามันเกิดขึ้นเราจะมองหาประกัน เพราะไอซียูมันก็หลายบาท และเราก็ไม่สามารถรู้ได้เพราะว่าโรคนี้บางคนอาจจะมีอาการบอกก่อน แต่สำหรับพ่อเบสท์ไม่มีอาการบอกก็คือวันนี้คุยกันปกติ ตื่นขึ้นมาเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ มันอาจจะเกิดขึ้นได้ และก็เรื่องตรวจสุขภาพคือพ่อไม่ชอบตรวจสุขภาพ เพราะว่ากลัวเข็ม กลัวโรงพยาบาล ก็เลยไม่รู้เรื่องเลยว่าสุขภาพเป็นอะไร เราก็อยากให้ทุกคนไปตรวจประจำปี ส่วนค่าใช้จ่ายมันก็เป็นเรื่องปกติของคนที่ป่วย ยิ่งเป็นเส้นเลือในสมองตีบมันก็ต้องหลักแสนอยู่แล้วหรือถ้าเกิดนอนนานกว่านั้นก็อาจจะเป็นหลักล้าน ก็แล้วแต่โรงพยาบาล ของเบสท์โชคดีที่ยังไม่ถึงหลักล้าน เพราะว่าพ่อเขาฟื้นตัวเร็วด้วย คือถ้าเราให้นอนต่อรอดูอาการ อาจจะถึง แต่เขาบอกเขาไม่เป็นไรเขาหายแล้ว โอเคดีขึ้น เราก็ออกมาก่อน ซึ่งตอนนี้เขาก็อยู่บ้านที่กรุงเทพฯ

“คุณพ่อหายป่วยเขาก็น่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน ส่วนเรานี่ต้องฮีลใจตัวเองก่อน ต้องหาคนฮีลใจก่อน ปีใหม่แล้วทำงานหาเงิน โสดขอหาเงินดีกว่า ถ้ามีคนเข้ามาก็หาเงินดีกว่า ความรักก็สนใจแต่ขอหาเงินก่อน ตอบเป็นดาราเลย (หัวเราะ) เบสท์ คำสิงห์ ขอรับงานตลอดทั้งปี ไม่มุ่งความรักมุ่งหาเงิน อุ้ยพาดหัวยาวขนาดนี้ได้เหรอ แต่เราก็ไม่ได้ปิดใจ หัวใจเปิดตลอดแต่ขอทำงานหาเงินก่อน ซึ่งก็ไม่มีใครเข้ามาและก็ไม่เปิด DM เดี๋ยวเจอ (หัวเราะ) วาเลนไทน์หาไม่ทันหรอก โสดแหละ”


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก bestkamsing