สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ว่า เออร์โดกัน กล่าวว่า ผู้สูงอายุของตุรกี มีสัดส่วนมากกว่า 10% ของประชากรทั้งหมด เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ ขณะที่อายุเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 34 ปี ซึ่งเป้าหมายที่รัฐบาลอังการาต้องการบรรลุ คือ การทำให้แต่ละครอบครัวมีบุตร 3 คน

อนึ่ง อัตราการเกิดที่ลดลง ถือเป็นความท้าทายสำหรับหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น, อิตาลี, จีน และฝรั่งเศส ซึ่งทุกประเทศที่ประสบปัญหานี้ ล้วนมีคำถามว่า พวกเขาจะช่วยเหลือประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นได้อย่างไร เมื่อจำนวนประชากรในวัยทำงานไม่สามารถตามทันแนวโน้มข้างต้น

ทั้งนี้ อัตราการเกิดของตุรกี ลดลงเหลือเด็ก 1.51 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคน ในปี 2566 เมื่อเทียบกับเด็ก 2.38 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคน ในปี 2544 ซึ่งเออร์โดกันประกาศว่า ปี 2568 เป็น “ปีแห่งครอบครัว” เพื่อพยายามและแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว

“รัฐบาลตุรกีจะเพิ่มความช่วยเหลือทางการเงิน โดยจะมอบเงินครั้งเดียว 5,000 ลีรา (ราว 4,900 บาท) เมื่อบุตรคนแรกเกิด รวมถึงดำเนินการช่วยเหลือเด็กเป็นจำนวนเงิน 1,500 ลีราต่อเดือน (ราว 1,470 บาท) สำหรับบุตรคนที่สอง และ 5,000 ลีราต่อเดือน สำหรับบุตรคนที่สามขึ้นไป” เออร์โดกัน กล่าวเพิ่มเติม

นอกจากนี้ คู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงาน จะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนครอบครัว ซึ่งมอบเงินสูงสุดถึง 150,000 ลีรา (ราว 147,000 บาท) โดยไม่มีดอกเบี้ย และเลื่อนการชำระเงินคืนเป็นเวลา 2 ปีด้วย.

เครดิตภาพ : AFP