ประเทศไทยและประเทศจีนมีความผูกพัน มีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน นับแต่สมัยกรุงสุโขทัยมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์จวบจนปัจจุบัน และความผูกพันแนบแน่นของ
2 อาณาจักรจะยั่งยืนสืบไป จากการก่อร่างสร้างความสัมพันธ์ ทั้งที่ผ่านทางการค้าขาย การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม คติความเชื่อ และองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่ส่งผลให้วัฒนธรรมและประเพณีของจีนผสมผสานเข้ากับของไทย จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนไทย จากอดีต สู่ปัจจุบัน และจะสืบต่อไปในอนาคต
ไทย-จีน ความสัมพันธ์อันดีของ 2 ประเทศแนบแน่นและยาวนานมานับร้อย ๆ ปี ขณะที่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการของ 2 ประเทศนั้นมีขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 ซึ่งก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วและแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมาได้มีการแลกเปลี่ยนและเยี่ยมเยือนในทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งได้มีการขยายความร่วมมือเชิงลึกในทุก ๆ มิติอีกด้วย

บางส่วนของคาแรกเตอร์ประติมากรรมแพนด้า
และในโอกาสที่ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนอย่างเป็นทางการได้ดำเนินมาเป็นระยะเวลาครบ 50 ปีในปีนี้ จึงนับเป็นโอกาสที่ดี ซึ่ง 2 ประเทศ ไทย-จีน ได้มีการร่วมกันจัดงานเฉลิมฉลองสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของ 2 แผ่นดิน โดยในปี 2568 นี้ ทาง ประเทศจีนได้สร้างความดีใจให้กับชาวไทยอีกครั้ง ด้วยการเตรียมส่งสัตว์สัญลักษณ์ของประเทศจีน คือ “แพนด้ายักษ์” คู่ใหม่ มาจัดแสดงที่สวนสัตว์เชียงใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2546 ประเทศจีนก็ได้เคยส่งแพนด้ายักษ์ “ช่วงช่วง” และ “หลินฮุ่ย” มายังประเทศไทย ในฐานะทูตสันถวไมตรีเพื่อฉลองการเจริญสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 ประเทศ โดย “ช่วงช่วง” กับ “หลินฮุ่ย” ได้มีพยานรักคือ “หลินปิง” ลูกแพนด้าสุดน่ารักที่เกิดในประเทศไทย
“ช่วงช่วง” และ “หลินฮุ่ย” ได้กลับดาวแพนด้าไปนานแล้ว ส่วน “หลินปิง” ก็ไปมีคู่ ไปมีลูก ๆ อยู่ที่จีน ซึ่งการจะได้ชมความน่ารักของแพนด้าอย่างใกล้ชิดกันอีกนั้น คนไทยก็ต้องอดใจรอกันอีกสักหน่อย อย่างไรก็ดี เร็ว ๆ นี้จะมี “ประติมากรรมหมีแพนด้า”ให้คนไทยได้ชมเป็นการเบิกโรงกันก่อน อันสืบเนื่องจากทางประเทศไทย โดยหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้ร่วมกันเตรียมจัดกิจกรรม เฉลิมฉลองครบรอบความสัมพันธ์ไทย–จีน 50 ปี อย่างยิ่งใหญ่ในหลากหลายมิติตลอดทั้งปี 2568 โดย เริ่มตั้งแต่ต้นปี รับเทศกาล “ตรุษจีน” เทศกาลสำคัญของคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีน
กิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญนี้ ก็รวมถึงงาน “EM DISTRICT THE GOLDEN PROSPEROUS KINGDOM CHINESE NEW YEAR 2025” ที่ทาง เอ็ม ดิสทริค ได้แก่ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ เอ็มสเฟียร์ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานครคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ผนึกกำลังร่วมกันจัดงานสุดยิ่งใหญ่ โดยไฮไลท์ของงานนี้คือการ จัดแสดงผลงาน “ประติมากรรมสัตว์สัญลักษณ์ประจำประเทศจีน” อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ที่สวนเบญจสิริ และที่เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ เอ็มสเฟียร์ ช่วงระหว่างวันที่ 22 มกราคม–28 กุมภาพันธ์ 2568

ประติมากรรมแพนด้าจะจัดแสดงกว่า 3,000 ตัว
การจัดแสดงประติมากรรมดังกล่าวนี้ จะ มีประติมากรรม “แพนด้า” เป็นตัวชูโรง โดยรวมผลงานประติมากรรมสัตว์ตัวอ้วนขนฟูสีขาวดำสุดน่ารัก จำนวนกว่า 3,000 ตัว หลากหลายขนาด มีตั้งแต่ตัวเล็กไปจนถึงตัวใหญ่สูงราว 10 เมตร ซึ่งได้มีการออกแบบคาแรกเตอร์หมีแพนด้ากว่า 10 คาแรกเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นยามนั่ง นอน เดิน ปีน คลาน กอด ฯลฯ โดยการออกแบบคาแรกเตอร์ก็ได้แรงบันดาลใจจากอิริยาบถแสนน่ารักของเหล่าแพนด้านั่นเอง
ทั้งนี้ การจัดแสดงประติมากรรมหมีแพนด้าครั้งนี้ ก็เป็นการตอกย้ำถึงมิตรภาพอันแนบแน่นทางการทูตระหว่างไทยกับจีนที่ครบรอบ 50 ปี อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนทางศิลปะและวัฒนธรรมของ 2 ประเทศ พร้อมสร้างความตระหนักด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าและการคุ้มครองสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ นอกจากนี้การจัดแสดงผลงานประติมากรรมแพนด้าครั้งนี้ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ไทยและภาคการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งหมีแพนด้านั้นก็เป็นสัตว์ขวัญใจของคนทั่วโลก ดังนั้น ไฮไลท์นี้ก็จะดึงดูดทั้งคนไทยเรา และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ให้มาร่วมชมความน่ารักของเหล่าแพนด้าในรูปแบบประติมากรรม โดย สถานที่ต่าง ๆ ในการจัดแสดงก็จะเป็น “แลนด์มาร์กที่สำคัญในช่วงเทศกาลตรุษจีน” ในประเทศไทย ในปีนี้

ประติมากรรมมังกร 1 ใน 3 สไตล์
และไม่เท่านั้น ไม่เพียงหมีแพนด้า หากแต่ยังจะ มีการจัดแสดงผลงาน “ประติมากรรมมังกร” สัตว์ในตำนานของจีนซึ่งถูกจัดให้เป็นสัตว์มงคล อีกด้วยโดยสัตว์มงคลในตำนานของจีนที่เรียกว่า “มังกร” นี้รวมความพิเศษของสัตว์ 9 ชนิดเข้าไว้ด้วยกัน อาทิ เกล็ดปลา หัวอูฐ เขากวาง เล็บนกอินทรี ฯลฯ ซึ่ง การจัดแสดงประติมากรรมมังกรครั้งนี้ก็สุดพิเศษ โดยถ่ายทอดผลงานด้วยเทคนิคตัดกระดาษอันประณีตและเก่าแก่ ศิลปะพื้นบ้านของชาวจีนที่สืบทอดมายาวนานกว่า 1,500 ปี ผสานเทคนิคคอลลาจ (Collage) ศิลปะการตัดแปะสมัยใหม่ ที่สอดประสานกันอย่างลงตัว
ประติมากรรม “มังกร” ที่จะจัดแสดง มี 3 สไตล์ ประกอบด้วย“มังกรคาบแก้ว”หัวมังกรสูง 9 เมตรที่จะตั้งตระหง่านสะกดทุกสายตา ท่ามกลางกลิ่นไอคติความเชื่อความมีมงคล โชคลาภ เงินทอง ความร่ำรวย และยศศักดิ์,“มังกรคำราม”ที่แสดงถึงพลังอำนาจ และมีคติความเชื่อการช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย,“มังกรเหินฟ้า”ที่ดูเหมือนกำลังล่องลอยในอากาศด้วยท่าทีพลิ้วไหวดุจมีชีวิต กับคติความเชื่อการบันดาลความโชคดี ทั้งนี้ ผลงานศิลปะประติมากรรมมังกรร่วมสมัยสุดตระการตานี้ ผู้ได้ชมจะได้สัมผัสถึงมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมจีนที่งดงามและดูมีชีวิตชีวาอย่างไม่เสื่อมคลาย ทั้งในจีนและในไทย

ประติมากรรมมังกรคาบแก้ว
และนอกจาก “ประติมากรรมหมีแพนด้า” สุดน่ารักกว่า 3,000 ตัว กับ “ประติมากรรมมังกรยักษ์” 3 สไตล์ ที่เป็นไฮไลท์สำคัญ โดยจะมีการจัดแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจที่สวนเบญจสิริ และที่เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ เอ็มสเฟียร์ ในช่วงระหว่างวันที่ 22 มกราคม–28 กุมภาพันธ์ 2568 ในงานดังกล่าวนี้ก็ยังมีการเสริมความโดดเด่นของงานอีกหลาย ๆ ส่วน ที่ก็ล้วนแล้วแต่ไม่ธรรมดาและน่าสนใจ เช่น จะ มีการแสดงด้านศิลปะวัฒนธรรม (Arts & Performance) การแสดงที่ผสมผสานเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมของไทยและวัฒนธรรมของจีน โดยจะมีศิลปินชื่อดังมาร่วมขับร้องบทเพลงจีนอันไพเราะให้ได้เพลิดเพลินท่ามกลางบรรยากาศสไตล์จีนโบราณ พร้อมการแสดงดนตรีร่วมสมัยจากศิลปินชื่อดังของเมืองไทย

ลวดลายส่วนหนึ่งในประติมากรรมมังกร
อีกทั้งจะ มีการแสดงแฟชั่นโชว์อัญมณีที่สวยงามล้ำค่า (Jewelry & Precious Gems) ตื่นตากับความงดงามและความหรูหราของเครื่องประดับ ผ่านทางการจัดแสดงแฟชั่นโชว์อัญมณีและเครื่องประดับอันล้ำค่าจากแบรนด์ระดับโลก ซึ่งเป็นผลงานที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปะจีนโบราณ จะ มีการนำเสนอนวัตกรรมวัฒนธรรมด้านอาหารและเครื่องดื่ม (Foods & Beverages) สามารถจะอิ่มอร่อยกับอาหารสไตล์จีนโดยเหล่าเชฟผู้มีชื่อเสียงที่จะมารังสรรค์เมนูพิเศษ รวมถึงร้านอาหารชื่อดังทั้งไทยและจีน กับเมนูจีนมงคล พร้อมดื่มด่ำกับพิธีการชงชาโบราณที่ก็ไม่ควรพลาดและไม่เท่านั้น ในงานดังกล่าวนี้ยังจะ มีการแสดงผลงานศิลปะและหัตถกรรม (Arts & Crafts) ร่วมชมและสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและของที่ระลึก ทั้งจากแบรนด์ระดับโลกและที่เป็นสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นของประเทศจีนที่น่าสนใจ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกไฮไลท์ของงาน
เหล่านี้คือโดยสังเขปของงาน “EM DISTRICT THE GOLDEN PROSPEROUS KINGDOM CHINESE NEW YEAR 2025” กิจกรรม “รับเทศกาลตรุษจีน 2568” ร่วม “เฉลิมฉลองครบรอบความสัมพันธ์ไทย–จีน 50 ปี” ในปีนี้
ที่ขอย้ำทิ้งท้ายไว้อีกครั้งคือ “ประติมากรรมหมีแพนด้า” กว่า 3,000 ตัว และ “ประติมากรรมมังกรยักษ์”3 สไตล์… “ความน่ารัก–ความมงคล” เตรียมไปสัมผัสอย่าง “ฉ่ำจิต–ฉ่ำใจ” กันได้เลย.
ไกรเลิศ พึ่งบุญ ณ อยุธยา