การลอกคอนเทนต์ในวงการข่าวกีฬาเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากเนื้อหาข่าวกีฬา เช่น สกอร์การแข่งขัน การวิเคราะห์ทีม หรือข่าวด่วนเกี่ยวกับนักกีฬา มักเป็นที่ต้องการของผู้ชมจำนวนมาก
การลอกคอนเทนต์ในรูปแบบนี้มีทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งสามารถแยกเป็นกรณีและตัวอย่างได้ดังนี้:

ลักษณะของการลอกคอนเทนต์ในข่าวกีฬา
1) การคัดลอกเนื้อหาโดยตรง
- เว็บไซต์ข่าวหรือเพจบางแห่งคัดลอกบทความหรือพาดหัวข่าวจากสื่อหลัก โดยเปลี่ยนแปลงข้อความเล็กน้อยหรือแปลภาษา แต่ยังคงเนื้อหาสาระเหมือนต้นฉบับ
ตัวอย่าง: การนำบทความวิเคราะห์ฟุตบอลจาก ESPN มาเผยแพร่บนเพจ Facebook โดยไม่ให้เครดิต
2) การดัดแปลงเล็กน้อย (Paraphrasing)
- บางกรณีเป็นการนำข่าวต้นฉบับมาเรียบเรียงใหม่ เช่น เปลี่ยนโครงสร้างประโยคหรือใช้คำพูดอื่น แต่ยังคงข้อมูลและประเด็นเหมือนเดิม
ตัวอย่าง: การแปลข่าวจาก Sky Sports เป็นภาษาไทย โดยไม่ได้ระบุว่าแหล่งข่าวมาจากที่ใด
3) การนำภาพหรือคลิปวิดีโอมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ใช้ภาพถ่ายหรือคลิปการแข่งขันจากเจ้าของลิขสิทธิ์ เช่น FIFA, UEFA หรือสำนักข่าวกีฬา โดยไม่ได้รับอนุญาต
ตัวอย่าง: แชร์ไฮไลต์การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกบน YouTube หรือ TikTok โดยไม่มีลิขสิทธิ์
4) การแปลข่าวต่างประเทศแบบตรงตัว
- นำข่าวจากสื่อต่างประเทศ เช่น BBC, Marca หรือ L’Équipe มาแปลเป็นภาษาอื่นและเผยแพร่บนเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียโดยไม่มีการให้เครดิต
ตัวอย่างการลอกคอนเทนต์ในข่าวกีฬา
กรณีในประเทศไทย
ข่าวด่วนการแข่งขันกีฬา
- เว็บไซต์ข่าวขนาดเล็กบางแห่งคัดลอกข้อมูลการแข่งขันจากสำนักข่าวหลัก โดยการเปลี่ยนคำบางส่วนและใช้ภาพเดียวกัน แต่ไม่ได้อ้างอิงแหล่งที่มา
การใช้ภาพนักกีฬา
- เพจ Facebook ที่รายงานข่าวกีฬาโดยใช้ภาพนักกีฬา เช่น ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือ ธีรศิลป์ แดงดา ที่มาจากสำนักข่าวอื่นหรือช่างภาพมืออาชีพ โดยไม่ขออนุญาตหรือให้เครดิต
- กรณีในต่างประเทศ
- กรณี Bleacher Report และ The Athletic
มีการกล่าวหาเว็บไซต์ข่าวเล็กๆ ในอเมริกาว่านำบทความเชิงวิเคราะห์จากเว็บไซต์ข่าวกีฬาชื่อดังเหล่านี้มาเรียบเรียงใหม่ แล้วเผยแพร่โดยไม่ให้เครดิตต้นฉบับ - การลอกคลิปวิดีโอของการแข่งขัน
ผู้ใช้งาน Twitter และ YouTube บางรายที่ดาวน์โหลดคลิปการแข่งขันฟุตบอลจากแหล่งข่าว เช่น Sky Sports หรือ BT Sport แล้วอัปโหลดใหม่พร้อมลายน้ำของตนเอง

ผลกระทบในวงการข่าวกีฬา
1) เสียหายต่อผู้ผลิตเนื้อหา
- สำนักข่าวกีฬาเสียรายได้จากการโฆษณาและสมาชิกที่สนับสนุนแพลตฟอร์มโดยตรง
- ช่างภาพหรือผู้ผลิตคลิปเสียสิทธิในการขายภาพหรือคลิปที่มีลิขสิทธิ์
2) ส่งเสริมข่าวปลอม (Fake News)
- การคัดลอกข่าวอาจทำให้ข้อมูลผิดพลาด โดยเฉพาะหากผู้ลอกไม่มีความเข้าใจในเนื้อหา
3) ลดคุณค่าของวงการข่าวกีฬา
- การลอกเลียนเนื้อหาเป็นการบั่นทอนความน่าเชื่อถือของสื่อกีฬาในระยะยาว
วิธีป้องกันและแก้ไข
1) ใช้ระบบตรวจสอบลิขสิทธิ์
- แพลตฟอร์มอย่าง YouTube และ Facebook มีระบบตรวจจับการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น Content ID สำหรับคลิปวิดีโอ
2) สนับสนุนผู้ผลิตเนื้อหาโดยตรง
- สนับสนุนการสมัครสมาชิกแพลตฟอร์มข่าวกีฬาหรือซื้อภาพและคลิปที่มีลิขสิทธิ์อย่างถูกต้อง
3) สร้างความแตกต่างด้วยคุณภาพ
- ผลิตเนื้อหาที่มีเอกลักษณ์ เช่น บทวิเคราะห์เชิงลึกหรือสัมภาษณ์พิเศษ ซึ่งยากต่อการลอกเลียน

ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
ด้านกฎหมาย: ปัญหาที่เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ (Copyright Issues)
- ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายลิขสิทธิ์ชี้ให้เห็นว่าการลอกคอนเทนต์เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง ซึ่งอาจนำไปสู่คดีความในศาล โดยเฉพาะหากผู้ถูกละเมิดเป็นบริษัทหรือบุคคลที่มีชื่อเสียง
- ตัวอย่าง: สำนักข่าวต่างประเทศ เช่น Associated Press (AP) และ Reuters มีการฟ้องร้องเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่นำข่าวและภาพถ่ายไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ด้านสื่อสารมวลชน: กระทบต่อความน่าเชื่อถือของสื่อ
- นักข่าวและผู้ผลิตเนื้อหาเชิงข่าวชี้ว่า การลอกคอนเทนต์บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้อ่านหรือผู้ชม และส่งผลให้คุณค่าของสื่อมวลชนลดลง
- ความคิดเห็นจากสื่อชั้นนำ: นักวิเคราะห์จาก The Guardian เคยกล่าวว่า การลอกข่าวไม่เพียงแต่ทำลายความน่าเชื่อถือของผู้ลอก แต่ยังส่งผลต่ออุตสาหกรรมข่าวที่ต้องการการสนับสนุนเพื่อความอยู่รอดในยุคดิจิทัล
- อ.เจนจิรา สุขเกษม นักวารสารศาสตร์และอาจารย์มหาวิทยาลัย แสดงความคิดเห็นว่า “การลอกคอนเทนต์ในวงการข่าวกีฬา หรือข่าวประเภทอื่น ๆ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของผู้ลอก แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในแหล่งข่าวออนไลน์โดยรวม การขาดจรรยาบรรณในการอ้างอิงแหล่งที่มาทำให้เกิดวงจรข่าวปลอมและข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลเสียต่อสังคมในระยะยาว”
- ด้านการตลาดออนไลน์: กระทบต่อแบรนด์และ SEO
- ผู้เชี่ยวชาญ SEO ชี้ว่า การลอกคอนเทนต์ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการจัดอันดับในเสิร์ชเอนจิน เช่น Google ซึ่งมีระบบตรวจจับเนื้อหาซ้ำ (Duplicate Content) และลงโทษเว็บไซต์ที่ละเมิด
- ผลลัพธ์: เว็บไซต์ที่ลอกเนื้อหาอาจถูกลดอันดับการค้นหา หรือในกรณีร้ายแรงอาจถูกแบนจากเสิร์ชเอนจิน
- ด้านจริยธรรม: การบั่นทอนความคิดสร้างสรรค์
- อาจารย์ด้านจริยธรรมและวัฒนธรรมดิจิทัลให้ความเห็นว่า การลอกคอนเทนต์ทำให้คนสูญเสียแรงจูงใจในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง และส่งเสริมวัฒนธรรมที่เน้น “ความเร็ว” มากกว่า “คุณภาพ”
- คุณอาทิตย์ สุขเสถียร นักเขียนและเจ้าของคอนเทนต์ดิจิทัล ให้ความคิดเห็นว่า “การลอกคอนเทนต์เป็นการลดคุณค่าในความพยายามของผู้สร้างต้นฉบับ ในฐานะนักเขียน เราคาดหวังให้ผลงานของเราถูกเคารพ การลอกทำให้วงการคอนเทนต์กลายเป็นแหล่งรวมข้อมูลซ้ำซาก และทำลายแรงจูงใจในการสร้างสรรค์”

บทสรุป
การลอกคอนเทนต์ในวงการข่าวกีฬาเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และกำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก รวมถึงในบ้านเรา แต่สามารถป้องกันและแก้ไขได้ด้วยการให้เครดิตที่เหมาะสม การเคารพลิขสิทธิ์ และการสนับสนุนผู้ผลิตเนื้อหาต้นฉบับอย่างถูกต้อง
หรือทางที่ดีที่สุดคือสร้างคอนเทนต์ด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปลอกของใครมา.