เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งอำเภอทองผาภูมิ ที่ 329/2567 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบขุดดินเพื่อร่อนหาแร่ทองคำในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ ภายใต้การอำนวยการโดยนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ นายโดมจันทร์ สุวรรณ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง.ผบ.ฉก.ลาดหญ้า ร.ต.ธนโชติ หุ้มแพร ผบ.มว.ลว.ส่วน ลว.ฉก.ลาดหญ้า

ต่อมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแห่งชาติทองผาภูมิ นำโดยนายพีรพัฒน์ แก้วดำรงค์ พนักงานราชการ ตำแหน่ง พนักงานพิทักษ์ป่า หัวหน้าสายตรวจส่วนกลาง เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ร่วมออกปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ในพื้นที่ป่าปิล๊อกคี่ หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ซึ่งในบริเวณป่าอันเป็นพื้นที่แปลงคดีที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้ตรวจยึดและจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีมีกลุ่มบุคคลแอบลักลอบเข้าไปบุกและขุดดินเพื่อร่อนหาแร่ทองคำ

คดีตามประจำวัน ข้อที่ 1 เวลา 01.25 น. ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน คดีอาญาที่ 11/2567 ยึดทรัพย์ที่ 3/2567 พื้นที่ตรวจยึดเนื้อที่ 14-0-1 ไร่ ซึ่งการกระทำดังกล่าว เกิดจากกลุ่มบุคคลที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย แอบลักลอบเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าและขุดดินหาแร่ทองคำ เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นป่าต้นน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการวางแผนจับกุมผู้กระทำความผิดที่แอบลักลอบเข้าไปบุกรุกพื้นที่ดังกล่าว โดยการติดตั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถส่งสัญญาณแจ้งเตือนกรณีพบบุคคลเข้าไปในแปลงดังกล่าว

กระทั่งวันที่ 16 มกราคม 2568 ช่วงเวลา 20.00 น. พนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับสัญญาณแจ้งเตือนผ่านกล้องวงจรปิด พบกลุ่มบุคคล 4-5 คน ได้เข้าไปในพื้นที่แปลงบุกรุกดังกล่าว และได้ดำเนินการขุดดินในพื้นที่บุกรุก ซึ่งตามวันเวลาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกลาดตระเวนโดยการเดินเท้าและชุดเคลื่อนที่เร็วโดยจักรยานยนต์ ออกจากท้ายหมู่บ้านปิล๊อกคี่ ไปตามเส้นทางทำไม้เก่า ลัดเลาะไปตามร่องห้วยและไหล่เขา คณะเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดที่แอบเข้าไปลักลอบขุดดินเพื่อหาแร่ทองคำได้ 5 คน อายุระหว่าง 19-21 ปี ทั้งหมดเป็นชาว ต.ปิล๊อก ในบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาช้างเผือก

ตรวจยึดของกลาง 12 รายการ ประกอบด้วย ครกหิน 1 ใบ ไฟฉายคาดหัว 5 อัน กระเป๋าสะพายข้างสีเขียวดำ 1 ใบ กระสอบปุ๋ยสีฟ้าบรรจุดิน น้ำหนัก 16 กิโลกรัม กระสอบปุ๋ยสีเขียวบรรจุดิน น้ำหนัก 11.2 กิโลกรัม กระสอบปุ๋ยสีขาวใบเล็กบรรจุดิน น้ำหนัก 6 กิโลกรัม กระสอบปุ๋ยสีขาวใหญ่บรรจุดิน น้ำหนัก 11.1 กิโลกรัม ผ้าถุงบรรจุดิน น้ำหนัก 7 กิโลกรัม รถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ Wave I 110 สีเขียว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน โดยมีนายปาย ไม่มีนามสกุล เป็นผู้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ Wave I 110 สีน้ำเงิน-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน โดยมีนายยอ ไม่มีนามสกุล เป็นผู้ขี่ รถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ Wave I 110 สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน โดยมีนายไพรัช ไม่มีนามสกุล เป็นผู้ขี่ และมีนายเตี้ย ไม่มีนามสกุล เป็นผู้ซ้อนท้าย และรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ Wave I 110 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน โดยมีนายทวาย ไม่มีนามสกุล เป็นผู้ขี่

โดยกระทำดังกล่าวข้างต้น เป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ดังนี้ ฐาน “ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี วรรคสอง ประกอบมาตรา 55 ฐาน “ร่วมกันยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 และมาตรา 31 วรรคสอง (3)

ฐาน “ร่วมกันยึดถือหรือครอบครองที่ดิน รวมตลอดก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามความในมาตรา 19(1) ประกอบมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ฐาน “ร่วมกันเก็บหา กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่ง ดิน หิน กรวด ทราย แร่ หรือทรัพยากรอื่น หรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ความในมาตรา 19(2) และมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และฐานร่วมกันเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามความในมาตรา 19 (6) และมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562

จึงนำตัวพร้อมของกลาง มาทำบันทึกเรื่องราวพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง นำตัวผู้กระทำผิดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก จ.กาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายตามต่อไป