สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ว่านายหาน เจิ้ง รองประธานาธิบดีจีน กล่าวระหว่างการพบหารือกับนายอีลอน มัสก์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเอ็กซ์ เทสลา และสเปซเอ็กซ์ ที่งานเสวนาทางธุรกิจรายการหนึ่ง ในกรุงวอชิงตัน ว่ารัฐบาลปักกิ่งคาดหวังบริษัทของสหรัฐเข้ามาเปิดสำนักงานในจีนมากขึ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์จีนส่งสัญญาณชัดเจนว่า “พร้อมรับมือ” กับการเปลี่ยนผ่านอำนาจที่กำลังจะเกิดขึ้น เนื่องจากในสมัยที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ระหว่างปี 2560-2564 รัฐบาลวอชิงตันในเวลานั้นขึ้นภาษีสินค้าจากจีน เป็นมูลค่าสูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10.29 ล้านล้านบาท)

ขณะที่เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์กล่าวว่า สินค้าจีนจะต้องเผชิญกับอัตราภาษีสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 10% จากระดับเดิม เมื่อเขารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

อนึ่ง ทรัมป์เปิดเผย เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่ามีโอกาสสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ซึ่ง “บรรยากาศของการสนทนาเป็นไปด้วยดี” และเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จีนและสหรัฐจะร่วมกันแก้ปัญหาหลายอย่าง “ทันที” เพื่อให้โลก “สงบสุขและปลอดภัย” โดยประเด็นที่มีการสนทนากัน รวมถึง การค้า เฟนทานิล ติ๊กต็อก

ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ ว่าผู้นำจีนให้ความสำคัญอย่างมาก กับการติดต่อสื่อสารระหว่างทั้งสองประเทศ และแสดงความหวังว่า การรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่สองของทรัมป์ “จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี” ให้กับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน.

เครดิตภาพ : AFP