สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ ระงับคำสั่งอนุมัติเดินทางเข้าประเทศและตั้งถิ่นฐาน ของผู้ลี้ภัยที่ได้รับอนุญาตไปแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งขอให้องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) ระงับการเคลื่อนย้ายผู้ลี้ภัยไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ผู้ลี้ภัยที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐแล้วตามสิทธิ จะยังคงได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องและเหมาะสมตามกฎหมาย และตามสิทธิขั้นพื้นฐาน
Just minutes after US President Donald Trump was inaugurated on Monday, hundreds of Afghan refugees set for resettlement in the US had their hopes crushed after they received notice that their flights – at least for the time being – were suspendedhttps://t.co/dWfxR8qxOO
— Middle East Eye (@MiddleEastEye) January 22, 2025
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ที่เบื้องต้นน่าจะกระทบกับผู้ลี้ภัยราว 10,000 คน เป็นไปตามหนึ่งในคำสั่งฝ่ายบริหาร ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามในวันแรกของการรับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระงับโครงการรับผู้ลี้ภัย เร็วที่สุดภายในวันที่ 27 ม.ค. และเสนอรายงานว่า จะเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติอย่างไร
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2567 สหรัฐรับผู้ลี้ภัยมากกว่า 100,000 คน ให้เข้ามาตั้งถิ่นฐาน เป็นสถิติสูงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ โดยผู้ลี้ภัยซึ่งเดินทางเข้ามา รวมถึงชาวเมียนมา และชาวสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก).
เครดิตภาพ : AFP