สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ลงพื้นที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อสำรวจความเสียหายของนครลอสแอนเจลิสและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากไฟป่าครั้งใหญ่ เมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเกือบ 30 ราย
California Gov. Gavin Newsom thanks President Trump and the First Lady for visiting California amid the wildfires devastation: "Thank you for being here. It means a great deal to all of us." pic.twitter.com/d9pcOIhSe6
— Trump War Room (@TrumpWarRoom) January 24, 2025
ขณะเดียวกัน นับเป็นครั้งแรกที่ทรัมป์ลงพื้นที่อย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่กลับมารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐสมัยที่สอง โดยนายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้การต้อนรับและนำทรัมป์สำรวจพื้นที่ประสบภัยด้วยตัวเอง

ทั้งนี้ ทรัมป์และนิวซัมขัดแย้งกันอย่างหนัก เกี่ยวกับนโยบายบริหารจัดการไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนีย แม้ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า จะมีการมอบความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากส่วนกลาง “แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไข” ว่าต้องมีการปล่อยน้ำอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ดี ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝั่งบริหาร สั่งให้มีการปล่อยน้ำจากทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มเติมด้วย
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐต้องการตรวจสอบเลขบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อให้มั่นใจว่า ไม่มีการสวมสิทธิลงคะแนนโดยผู้อพยพผิดกฎหมาย แต่ยังไม่ชัดเจนว่า นิวซัมมีความเห็นว่าอย่างไร
PRESIDENT TRUMP: "I'm signing an Executive Order to open up the pumps and the valves in the north. We want to get that water pouring down here as quickly as possible — and let hundreds of millions of gallons of water flow down into southern California." pic.twitter.com/fGAUGZ8wkj
— Trump War Room (@TrumpWarRoom) January 25, 2025
นอกจากการลงพื้นที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ทรัมป์เดินทางไปยังรัฐนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากอิทธิพลของเฮอริเคน “เฮเลน” ที่คร่าชีวิตประชาชนเกือบ 100 ราย โดยทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร ให้มีการปรับโครงสร้าง สำนักงานบริหารจัดการภาวะฉุกเฉินส่วนกลาง (ฟีมา) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลกลาง ในการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ให้แก่พื้นที่ประสบภัยพิบัติในอเมริกา.
เครดิตภาพ : AFP