เมื่อวันที่ 26 ม.ค. สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง เสียงของผู้ปกครองนักเรียน ต่อ แอปล่าเหรียญ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น จำนวนทั้งสิ้น 1,089 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 22–25 มกราคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา

จากผลการสำรวจของสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ผู้ปกครองส่วนใหญ่แสดงความกังวลอย่างมากต่อผลกระทบของแอปล่าเหรียญในกลุ่มเยาวชน โดยร้อยละ 88.4 ของผู้ปกครองมีความกังวลว่าเยาวชนอาจตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมที่เกิดจากการใช้งานแอปดังกล่าว ขณะที่ร้อยละ 82.7 ต้องการให้ตำรวจและหน่วยงานรัฐเร่งควบคุมการใช้แอปที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ร้อยละ 71.5 ของผู้ปกครองต้องการให้มีเครื่องมือออนไลน์เพื่อช่วยติดตามการใช้งานแอปพลิเคชันของเยาวชน
ในด้านพฤติกรรมเยาวชน พบว่า ร้อยละ 67.3 ของผู้ปกครองเชื่อว่าแอปล่าเหรียญทำให้เยาวชนออกไปในพื้นที่เสี่ยงอันตราย และร้อยละ 65.9 เห็นว่าแอปดังกล่าวมีอันตรายต่อเยาวชนในระดับมากถึงมากที่สุด อีกทั้งยังมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนตัวของเยาวชนถึงร้อยละ 64.2

เมื่อพิจารณาถึงความพึงพอใจต่อการทำงานของตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร้อยละ 58.6 ของผู้ปกครองแสดงความพึงพอใจมากถึงมากที่สุด แต่ยังมีร้อยละ 22.5 ที่พึงพอใจในระดับต่ำ แสดงให้เห็นถึงช่องว่างในประสิทธิภาพการดำเนินการ
สำหรับข้อเสนอแนะต่อการจัดการปัญหา พบว่า ร้อยละ 85.8 ของผู้ปกครองเสนอให้มีระบบจัดอันดับและแจ้งเตือนความเสี่ยงของแอปก่อนที่เยาวชนจะดาวน์โหลดลงอุปกรณ์ และร้อยละ 75.1 ต้องการให้หน่วยงานดำเนินการจัดการกับแอปล่าเหรียญอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว นอกจากนี้ ร้อยละ 74.9 เห็นว่าควรปิดแอปที่เป็นอันตรายทันทีเมื่อพบความเสี่ยง และร้อยละ 73.5 เสนอให้มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับแอปพลิเคชันที่อันตราย
สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ระบุด้วยว่า ข้อค้นพบเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับปรุงมาตรการและการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐเพื่อปกป้องเยาวชนจากความเสี่ยงของแอปล่าเหรียญ การพัฒนาระบบแจ้งเตือน การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด และการสร้างความตระหนักรู้ผ่านการอบรมในโรงเรียนและชุมชน จะเป็นกุญแจสำคัญในการลดผลกระทบเชิงลบจากแอปล่าเหรียญในระยะยาว