เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ร.ต.อ.พงศกร อ่อนสลวย รองสารวัตร(สอบถาม)สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 ก.ค.ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงถูกนำตัวมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสตึกจึงรุดไปตรวจสอบ ผู้ที่ถูกยิงคือนายสำราญ (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 69 ปี ย์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนทราบต่อมาเป็นปืนลูกซองยาว เข้าบริเวณต้นขาขวา แพทย์เห็นอาการสาหัสได้ส่งตัวไปผ่าหัวกระสุนออกที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ต่อมาตำรวจได้นำตัวนายทองพูล (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 72 ปีซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยยิงนายสำราญ มาสอบสวนที่ สภ.สตึก เบื้องต้นนายทองพูลให้การปฏิเสธ ว่าไม่ใช่เป็นคนยิง

จากการสอบสวนนายทองพูล ให้การว่า ตนกับคนถูกยิงอยู่คุ้มเดียวกัน ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ส่วนเรื่องผู้หญิงชื่อน้ำฝนตนไม่ได้สนใจ ไม่ได้หึงหวง แต่ยอมรับว่าเคยดูแลเรื่องการเงินบ้างยามที่น้องน้ำฝนมาขอ ยืนยันไม่หวงขนาดนั้น

ขณะที่ น.ส. น้ำฝน (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปีให้การว่า  หลังจากตนเลิกกับแฟนเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาทั้งนายสำราญ และนายทองพูล ซึ่งทั้งสองภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว ได้เข้ามาพยายามตีสนิทใกล้ชิดล่าสุดนายสำราญ ได้ห้ามตนไม่ให้ไปบ้านนายทองพูล ซึ่งอาจจะเป็นมูลเหตุก็เป็นได้และคาดว่านายทองพูล น่าจะทะเลาะกันก่อน แล้วอีกฝ่ายไปเอาปืนมายิงถึงบ้าน ส่วนตัวเชื่อว่าทั้งสองคนหึงหวงตน แต่วันเกิดตนไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง เพราะไม่ได้อยู่ ที่ผ่านมาไม่เคยคิดอะไรกับตาทั้งสองคนและไม่คิดจะไปสร้างอนาคตใหม่กับชายใกล้ฝั่งแบบนี้

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหานายทองพูล มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ,พาอาวุธปืนปืนไปในหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ,ข่มขู่ผู้อื่นให้ตกใจกลัว ส่วนข้ออื่นจะต้องรอผลจากแพทย์ว่าอาการหนักแค่ไหน