หลายคนเชื่อว่าการเริ่มต้นที่ดีในตอนเช้าสามารถกำหนดบรรยากาศให้ตลอดวันที่เหลือดำเนินไปด้วยดีเช่นกัน บางคนมีกิจวัตรเฉพาะตัวในตอนเช้าเพื่อช่วยให้เริ่มวันใหม่ได้อย่างสดใส แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนก็ให้ข้อมูลว่า หากทำกิจกรรมบางอย่างหลังจากตื่นนอนตอนเช้าเป็นประจำ อาจช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นได้
1. ออกกำลังกาย
ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายจริงจังเป็นชั่วโมง ๆ เพียงแค่ออกแรงเบา ๆ เช่น ยืดเหยียดกล้ามเนื้อหรือออกไปเดินเล่น ดร.โจนาทาน เฟียลคาว รองผู้อำนวยการด้านโรคหัวใจทางคลินิกที่สถาบันโรคหัวใจและหลอดเลือดแห่งไมอามีกล่าวว่า “เวลาในการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ และการหาเวลาสักสองสามนาทีในตอนเช้าเพื่อเดินหรือวิดพื้นหรือกระโดดตบที่บ้าน จะช่วยเตรียมความพร้อมทางร่างกายและจิตใจสำหรับวันใหม่ได้ การออกกำลังกายยังช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น ลดความเครียด เพิ่มความแข็งแรงและความสมบูรณ์ของร่างกาย”
ดร.มานมิต ซิงห์ อาลูวาเลีย จากสถาบันมะเร็งไมอามีแบปทิสต์เฮลท์ กล่าวว่า “การออกกำลังกายในตอนเช้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง” โดยชี้ให้เห็นถึงผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Cancer ซึ่งพบว่าการออกกำลังกายในตอนเช้าระหว่างเวลา 08.00 น. ถึง 10.00 น. ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมลงร้อยละ 25 และลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากลงร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ออกกำลังกายเลย
2. ล้างหน้า
แพทย์หญิงเรเชล นาซาเรียน แพทย์ผิวหนังที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการของชไวเกอร์ เดอร์มาโทโลจี กรุ๊ป กล่าวว่า “หลายคนละเลยขั้นตอนนี้ในตอนเช้า เพราะรู้สึกว่าผิวของตัวเองไม่ได้สกปรก เนื่องจากเพิ่งเข้านอนและล้างหน้าก่อนนอนแล้ว แต่การล้างหน้าในตอนเช้านั้นสำคัญมาก”
นาซาเรียนอธิบายว่าร่างกายของเราเคลื่อนไหวตลอดทั้งคืนขณะหลับ ทำให้เหงื่อ น้ำมันจากหนังศีรษะ และน้ำลายจากปากของเราติดอยู่ที่หมอน ซึ่งอาจเปื้อนที่ใบหน้าได้
“คุณตื่นขึ้นมาพร้อมกับน้ำมันจากหนังศีรษะและแบคทีเรียทั่วใบหน้า ไม่ว่าคุณจะรู้หรือไม่ก็ตาม” นาซาเรียนกล่าว “การล้างหน้าจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการอักเสบและการติดเชื้อได้ แล้วยังทำให้ผิวหน้าของคุณสะอาดหมดจดสำหรับขั้นตอนการดูแลผิวในตอนเช้า”
3. รอเวลาเพื่อแปรงฟันในตอนเช้า
บางคนพอตื่นขึ้นมาก็แปรงฟัน บางคนก็กินอาหารเช้าก่อนแล้วค่อยแปรงฟัน ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันว่าพฤติกรรมแบบไหนดีกว่า สมาคมทันตแพทย์แห่งอเมริกันแนะนำว่าควรแปรงฟันวันละสองครั้ง แต่ละครั้งควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสองนาที แต่ก็ไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่เจาะจงลงไป
มาเรีย แจ๊คสัน นักอนามัยทันตกรรมที่คลินิกโรคฟันแอสเพนแนะว่า ควรบ้วนปากด้วยน้ำก่อนกินอาหารเช้า แล้วค่อยแปรงฟันหลังจากกินเสร็จ “การบ้วนปากอย่างรวดเร็วก่อนกินอาหารจะช่วยขจัดแบคทีเรียบางส่วนที่อาจสะสมข้ามคืนได้ การแปรงฟันหลังกินอาหารเช้าจะช่วยขจัดเศษอาหารและแบคทีเรียที่ยังหลงเหลืออยู่ คุณจะได้ไม่ต้องทนอยู่กับแบคทีเรียตลอดทั้งวัน”
หากชอบดื่มชา กาแฟในตอนเช้า แจ๊คสันบอกว่า ควรรออย่างน้อย 30 นาทีหลังจากดื่มเสร็จแล้วค่อยแปรงฟัน เนื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้ รวมทั้งน้ำส้ม มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งอาจทำให้เคลือบฟันอ่อนลงชั่วคราว การรอจะทำให้น้ำลายมีเวลาสลายความเป็นกรดสู่ความเป็นกลางในช่องปาก ซึ่งจะช่วยปกป้องฟันจากการสึกกร่อน
4. ขูดลิ้นหลังแปรงฟัน
การขูดลิ้นคือการใช้เครื่องมือขจัดเศษอาหาร แบคทีเรีย และเซลล์ที่ตายแล้วออกจากลิ้นของคุณ และเป็นสิ่งที่ดร.ฟาติมา ข่าน ทันตแพทย์และผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ริเวน ออรัลแคร์ แนะนำ
“(การขูดลิ้น) ช่วยให้สุขภาพช่องปากดีขึ้นและช่วยป้องกันกลิ่นปาก” ข่านอธิบาย “การเลือกเครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟันหรือที่ขูดลิ้น ไม่สำคัญเท่ากับการทำความสะอาดอย่างทั่วถึงจากด้านโคนลิ้นไปยังด้านหน้าและขจัดคราบขาวออกไป”
เหตุที่ต้องขูดลิ้นในตอนเช้าก็เพราะการทำเช่นนี้จะช่วยกำจัดกลิ่นปาก ข่านยังบอกอีกว่าคราบขาวที่คุณเห็นบนลิ้นมักจะปรากฏขึ้นในตอนเช้ามากกว่า เนื่องจากมีการหายใจทางปากและมีน้ำลายไหลออกมาน้อยลงในช่วงกลางคืน ซึ่งอาจทำให้แบคทีเรียเติบโตจนมีจำนวนมากเกินไป
5. ดื่มน้ำผสมน้ำเลมอน
“หลังจากนอนหลับไปในช่วงกลางคืน ร่างกายจะขาดน้ำตามธรรมชาติ น้ำผสมน้ำเลมอนช่วยเติมน้ำเข้าสู่ร่างกายและกระตุ้นการเผาผลาญ” ดร.จัสติน ฮูแมน แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะและผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านระบบทางเดินปัสสาวะที่ศูนย์การแพทย์ซีดาร์ส-ไซนาย กล่าว
ฮูแมนยังชี้ว่า เนื่องจากมะนาวมีวิตามินซีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ การบีบน้ำเลมอนใส่น้ำแก้วแรกของวันสามารถช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพผิวในระยะยาว นอกจากนี้ยังอาจช่วยกระตุ้นน้ำย่อยในกระเพาะอาหารและช่วยลดอาการท้องอืดหรือท้องผูกได้ ทั้งนี้ สามารถดื่มน้ำผสมน้ำเลมอนได้ทั้งแบบอุ่นและแบบเย็น
อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังสำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนหรือกระเพาะอาหารที่ไวต่อการรบกวน ไม่ควรดื่มน้ำผสมน้ำเลมอน เนื่องจากความเป็นกรดของเลมอนอาจทำให้มีอาการบางอย่างแย่ลง และยังอาจกัดกร่อนเคลือบฟันได้ หากทิ้งไว้นานเกินไป ฮูแมนจึงแนะนำว่า ควรดื่มน้ำผสมน้ำเลมอนด้วยหลอดดูดหรือบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทันทีหลังดื่ม
ที่มา : yahoo.com