เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 29 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นำเด็กและเยาวชนจากโครงการ เยาวชนไทย หัวใจเดียวกัน รุ่นที่ 9 ที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และ 4 อำเภอ ในจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย จำนวน 120 คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 

โดยนายกฯ กล่าวว่า สวัสดีน้องๆ ทุกคนที่เข้าร่วมโครงการ วันนี้ดีใจมากที่ได้มาเจอน้องๆ และบางคนเราก็เคยเจอกันแล้วตอนลงพื้นที่ครั้งที่แล้ว ยังจำหน้ากันได้อยู่เลย เพราะเพิ่งไปมา วันนี้ดีใจมากและได้ทราบด้วยว่าน้องๆ ได้ไปดูงานที่รัฐสภา และศาลฎีกาก่อนที่จะมาทำเนียบรัฐบาล เป็นโอกาสที่ดีมากเข้าไปเรียนรู้  เพื่อในอนาคตจะเป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่งว่าใครที่อยากไปเรียนทางไหน และต่อยอดในอาชีพอย่างไรต่อไป  ขอให้เรียนรู้อย่างเต็มที่ ใช้เวลาอย่างเต็มที่ศึกษาดูว่าใช่สิ่งที่ชอบหรือไม่ หรือประเทศนี้กำลังทำอะไรอยู่ มีหน่วยงานทำอะไรบ้างในประเทศถือเป็นสิ่งที่เป็นโอกาสและสำคัญมากๆ 

นายกฯ กล่าวต่อว่า ฝากน้องๆ ไว้ว่าเราเติบโตขึ้นทุกวัน โลกก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อยากให้พร้อมที่จะปรับตัวอยู่เสมอ เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนไปมากมาย ในช่วงเวลา 10 ปีมันเกิดขึ้นมากมาย ก็ให้น้องๆ มีจิตใจเข้มแข็ง พร้อมที่ปรับตัวอยู่เสมอ และรับรู้ รับทราบว่าทุกอย่างเกิดขึ้นและเปลี่ยนไป สิ่งที่สำคัญเราต้องมีความมั่นใจ มั่นคงในตัวเอง แล้วรักตัวเองให้เป็น เห็นคุณค่าของตัวเองให้เป็น อันนั้นคือสิ่งสำคัญ 

“บางทีเราเจอในโลกโซเชียลมีเดีย เราเจอเพื่อน หรือใครที่คิดไม่ดีกับเรา แต่เราต้องทราบว่าคุณค่าของเราคืออะไร และสิ่งนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทุกๆ คนมีคุณค่าของตัวเอง มีคนที่รักตัวเองมากๆ อยู่ เพราะฉะนั้นเรามีคุณค่าแน่นอน อยากให้น้องๆ โตขึ้นไปด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง เบิกบาน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักที่ทำให้ตัวเองมีความสุขได้และเผื่อแผ่ความสุขให้เพื่อนๆ รอบข้างได้” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่า ตอนนี้สังคมและโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เรามีความต่างกันในพื้นที่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในบ้านของเรา ในครอบครัวของเราก็ไม่เหมือนกัน พี่น้องก็ไม่เหมือนกัน พ่อแม่ก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราต้องเคารพความแตกต่างของทุกคน ใช้ความแตกต่างนั้นพัฒนาประเทศชาติ คนที่ต่างจากเราเขาไม่ผิด อันนี้คือสิ่งที่อยากให้ทุกคนปรับ Mindset (กรอบความคิด) ให้รู้สึกว่าความแตกต่างนั้นสร้างสิ่งที่สวยงามได้  หวังว่าเราทุกคนจะได้ประสบการณ์ที่ดีมากๆ กับทริปนี้ และได้ความประทับใจกลับไปด้วย 

“ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ก็อยากลงพื้นที่ไปเจอน้องๆ อีก ต้องขอขอบคุณผ่านทางนี้ว่าให้ความต้อนรับน้องพี่ได้ดีมากๆ จริงๆ และประทับใจมากๆ และรู้สึกมีความสุขที่ได้เจอกับทุกคน มีโอกาสพูดคุย และรับฟังปัญหาของแต่ละพื้นที่ด้วย ฉะนั้นอยากจัดสรรเวลาให้ดี เพื่อจะได้คุยกับคนพื้นที่ และจะได้ช่วยกันแก้ปัญหา” นายกฯ กล่าว.