จากกรณีที่มีผู้ปกครองแสดงความกังวลโรงเรียนเอกชนหลายแห่งเตรียมขยับปรับเพิ่มค่าเทอมในปีการศึกษา 2568 ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับผู้ปกครองนักเรียน ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้จะดีนัก ผู้ปกครองมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเรียกร้องขอให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เข้ามาช่วยตรวจสอบและดูแลในเรื่องดังกล่าวเพื่อไม่ให้ผู้ปกครองนักเรียนถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการนั้น

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การกำหนดค่าเทอมของโรงเรียนเอกชน หากเป็นโรงเรียนที่ขอรับเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวนักเรียนจากทางรัฐบาล โรงเรียนจะเรียกเก็บค่าเทอมจากผู้ปกครองได้ในอัตราที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เป็นผู้กำหนดเท่านั้น ซึ่งในกลุ่มนี้ ศธ.จะกำชับให้ทาง สช.ได้เข้าไปตรวจสอบดูแล ห้ามไม่ให้มีการเรียกเก็บค่าเทอมเกินเพดานที่กำหนดไว้อย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ผู้ปกครองได้รับผลกระทบ ส่วนกลุ่มโรงเรียนที่ไม่ขอรับเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวนักเรียนจากรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนนานาชาตินั้น ทางโรงเรียนสามารถเรียกเก็บในอัตราที่ทางโรงเรียนกำหนดได้เอง สช.จะไม่สามารถเข้าไปกำกับควบคุมในเรื่องค่าเทอมได้ ทั้งนี้ถือเป็นความพึงพอใจร่วมกันระหว่างผู้ปกครองกับทางโรงเรียนที่ได้ตกลงร่วมกันตั้งแต่แรก

“ศธ.มีความห่วงใยผู้ปกครองนักเรียน และไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว จะกำชับไปยังนายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ให้ช่วยตรวจสอบดูแลไม่ให้กลุ่มโรงเรียนเอกชนที่ขอรับเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวนักเรียนจากรัฐบาลลักไก่ปรับขึ้นค่าเทอมเกินกว่าเพดานที่กำหนดไว้อย่างเด็ดขาด” โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว.