เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 30 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง เปิดปฏิบัติการ Seal Stop Safe 14 จังหวัด 51 อำเภอ 76 สถานที่ตำรวจ ว่า การประชุมครั้งนี้เน้นย้ำเรื่องการบูรณาการที่ยังไม่ครอบคลุมมากนัก ตั้งแต่ชายแดน พื้นที่ในเมือง และพื้นที่จังหวัดเหล่านี้เป็นแหล่งรองรับการขนย้ายยาเสพติดเข้า จึงต้องเร่งดำเนินการก่อน และเรื่องยาเสพติดเป็นหัวใจหลักที่จะขยายไปสู่การป้องกันปัญหาด้านอื่น เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ ซึ่งเราเข้าใจคนทำงาน ในพื้นที่มีความเสี่ยงและเป็นภารกิจที่สำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติและประชาชนมีความปลอดภัย จึงอยากให้แต่ละหน่วยงานได้พูดคุยกัน เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหา รวมถึงการดูแลผู้ปฏิบัติงานเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ทั้งนี้ จากนี้จะมีการประเมินดัชนีชี้วัดความสำเร็จ (KPI) เป็น 3 ช่วง ได้แก่ เดือน ก.พ. เดือน มี.ค., เดือน เม.ย. เดือน พ.ค. และ เดือน มิ.ย. เดือน ก.ค. จากนั้นจะประเมินผลภาพรวมทั้งหมดอีกครั้งเพื่อให้มีการปรับแผนและปฏิบัติงานต่อไปในอนาคตข้างหน้า

เมื่อถามว่า จะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการกำหนด KPI จำนวนการจับกุม หรือปริมาณยา นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราใช้กลไกการตรวจสอบ ทั้งเชิงปริมาณ ปกติเคยทำกันอยู่แล้วได้ปริมาณเท่าไหร่ มากำหนดตัวเลขที่เหมาะสม แต่ตนไม่อยากระบุถึงตัวเลข อยากให้ 2 เดือนดูการประเมินเชิงคุณภาพ  ซึ่ง 2 อย่างนี้ต้องสอดรับกัน โดยได้มอบหมายให้สถาบันวิชาการภายนอกเป็นผู้เข้ามามีส่วนร่วมในการวัด KPI 

เมื่อถามต่อว่า เมื่อมีตัวเลขมาเกี่ยวข้องจะเหมือนดาบสองคม ให้ผู้ปฏิบัติการกดดันและเร่งออกปฏิบัติการกวาดล้างเพื่อทำยอด จนกระทบกับประชาชนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กำชับไปแล้วให้ทำให้เด็ดขาด ปัญหานี้อย่าปล่อยปละละเลย แต่ให้คำนึงถึงหลักนิติธรรมและกฎหมายให้เคร่งครัด แต่ไม่เกินเลยขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ ซึ่งตนมองว่าต้องเชื่อใจและเห็นใจผู้ปฏิบัติงาน ไม่ใช่ว่าเขาไปกระทำฝ่ายเดียว แต่ต้องเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงเช่นกัน อยากให้ทุกคนมองในภาพนี้ เพราะหากเราต้องการความเด็ดขาด เรื่องราวอื่นๆ อาจเกิดขึ้นได้ เราจึงต้องจัดการตามความเป็นจริง และเราใช้กระบวนการทุกส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ได้ทำโดยพลการ 

เมื่อถามอีกว่า ไฟเขียวให้จับตายหรือไม่ หากผู้ค้ายาใช้อาวุธต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราคงไม่ยืนให้เขาใช้อาวุธยิง ซึ่งการจับตายเป็นไปตามกระบวนการ ถ้าเขาใช้อาวุธเราก็ป้องกันตัวได้ตามกฎหมาย เชื่อว่าเราก็ระมัดระวังในเรื่องนี้ เพราะชีวิตเจ้าหน้าที่ก็สำคัญ ถึงแม้พ่อค้ายาจะเป็นมนุษย์คนหนึ่ง แต่เราก็ต้องคำนึงถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย แต่ทุกอย่างจะยึดตามกติกาสากล เรื่องการปกป้อง ตอบโต้ได้ตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้.