คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเกม : Soft Power – Games ผู้ติดตามสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับวงการเกมในประเทศไทยมาตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องราวและผลกระทบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ‘ม็อด FiveM’ จากเกม GTA V หลังจากที่ “แก๊ง OREO” ถูกดำเนินคดีในหลายข้อหาโดย “กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” หรือ “ตำรวจไซเบอร์” ทำให้คดีนี้สร้างความกังวลใจต่อวงกว้างว่าจะมีการ ‘แบนเกม’ เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกครั้ง
โดยทางคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเกม เผยความรู้สึกเกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวข้องกับ FiveM ไว้ในทางเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของพวกเขา ไว้ดังนี้

“จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์กลุ่มบุคคลรวมตัวกันผ่านช่องทางออนไลน์ของเกม Grand Theft Auto V (GTA V) และส่วนดัดแปลงเกม (ม็อด – Mod) ที่ชื่อว่า FiveM โดยกระทำการละเมิดกฎหมายจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวางในช่วงที่ผ่านมา ทางคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเกม ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และขอเรียกร้องให้มีมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต”
“อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่าเหตุการณ์นี้เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่ออุตสาหกรรมเกมในประเทศไทย เกม FiveM เป็นแพลตฟอร์มการดัดแปลง (modification) ที่พัฒนาต่อยอดจาก GTA V ของบริษัท Rockstar Games ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสร้างเซิร์ฟเวอร์และเนื้อหาเฉพาะได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะในรูปแบบ Roleplay ที่เสริมสร้างจินตนาการและทักษะการสื่อสาร“
“GTA V เป็นหนึ่งในเกมที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเกมและความบันเทิงระดับโลก ด้วยยอดขายกว่า 205 ล้านชุดทั่วโลก เป็นรองเพียง Minecraft ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมและคุณค่าทางเทคโนโลยี รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาเกม นอกจากนี้ ตัวเกมยังถ่ายทอดแนวคิดสำคัญที่ว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และทุกคนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง ซึ่งช่วยสร้างความตระหนักรู้ในด้านจริยธรรมของผู้เล่น”
“แม้เกมจะมอบอิสระในการเล่นและสร้างสรรค์ แต่การนำอิสระดังกล่าวไปใช้ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้เล่น การกล่าวโทษตัวเกมว่าเป็นสาเหตุของปัญหาสังคมจึงไม่ถูกต้องทั้งหมด สังคมควรมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้กระทำผิด”
“การห้ามเล่นหรือปิดกั้นการเข้าถึงเกมไม่ใช่ทางแก้ปัญหาระยะยาว ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังผลักดันอุตสาหกรรมเกมเพื่อสร้างรายได้และความเจริญเติบโตในระดับภูมิภาค การจัดการปัญหานี้ควรอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม”
“คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเกม มีความยินดีที่จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างสังคมที่ดีขึ้นและส่งเสริมการใช้อุตสาหกรรมเกมอย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกม โดยเฉพาะพระราชบัญญัติเกมที่อยู่ระหว่างการร่างในขณะนี้ ซึ่งเราหวังว่าจะได้มีบทบาทในการเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อการกำกับดูแลที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความเป็นจริงของอุตสาหกรรมเกมในปัจจุบัน”
หลังจากที่ทาง คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเกม ได้โพสต์ข้อความดังกล่าวไป ชาวเน็ตบางส่วนก็เริ่มมีการออกมาแสดงความคิดเห็น โดยบางส่วนได้แสดงความเห็นในเชิงเห็นด้วยที่การแบนเกมไม่ใช่ทางออก ในขณะที่บางส่วนก็ขอให้ทางคณะฯ ช่วยตรวจสอบเกี่ยวกับการเปิดเซิฟเวอร์เพื่อนำไปใช้ในเชิงสร้างรายได้ ซึ่งการกระทำรูปแบบนี้ผิดต่อข้อกำหนดและเงื่อนไขของทั้งผู้สร้างม็อด FiveM (Cfx.re.) และผู้สร้างเกม GTA V (Rockstar Games/Take-Two Interactive) มาตั้งแต่แรก (ทั้งสองผู้ให้บริการเป็นผู้ออกข้อกำหนดร่วมกัน) และยังมีคอมเมนต์อื่น ๆ อีกมากมาย ในขณะที่โพสต์ดังกล่าวก็ได้รับการแชร์เป็นวงกว้างเช่นกัน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก: คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเกม : Soft Power – Games, ตำรวจไซเบอร์ – บช. สอท.