จากกรณีวันนี้เกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกสินค้า เอ็ม.วี.โอ.พี.เค. 3 ที่บรรทุกตู้คอนเทเนอร์มาเต็มลำถูกเรือบรรทุกสินค้า เอ็น พี ปทุมธานี ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ชน จนเรือ เอ็ม.วี.โอ.พี.เค. 3 แตกเป็นรูขนาดใหญ่ประมาณเมตรคูณเมตร น้ำไหลทะลักเข้าเรือจนจมอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ทั้งตำรวจน้ำ และเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ และ ปภ.เร่งเข้าตรวจสอบและเชิญผู้เกี่ยวข้องของเรือทั้ง 2 ลำ ไปทำการสอบสวน จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่มีลูกเรือได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 พ.ย. นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีด้านปลอดภัยกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ตอนนี้กำลังเร่งกู้เรือและตู้สินค้าที่ภายในส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตร เพื่อเร่งเปิดทางเดินเรือ พร้อมกำชับสั่งการให้เจ้าของเรือเร่งกู้เรือให้เสร็จภายใน 3 วัน และสั่งการให้เรือทุกลำที่จะใช้เส้นทางผ่านให้ใช้ความระมัดระวังสูงสุด ในส่วนน้ำมันของเรือที่ภายในมีจำหลายตัน ตอนนี้ใช้ทุ่นกักเก็บคราบน้ำมันเข้าล้อมเรือไว้แล้วเพื่อไม่ให้คราบน้ำมันรั่วกระจายออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าการกู้ตู้สินค้าและเรือน่าจะเสร็จและเปิดทางเดินเรือปกติได้ภายในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ย.)

ขณะที่นายนราชัย ชุมศรี 55 ปี โอเปอเรชั่นเมเนเจอร์ บริษัท เอ็ม.วี.โอ.พี.เค.โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด กล่าวว่า เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้เราได้ให้ลูกเรือพักผ่อนก่อน ซึ่งเราจะจัดคนงานให้อยู่เฝ้าเรือที่เกิดอุบัติเหตุ 2 คน เพราะไม่ได้เอาทรัพย์สินอะไรออกมาเลย ขณะเกิดเหตุทุกคนต่างก็สละเรือกันหมด ตอนแรกคิดว่าน่าจะทัน แต่ก็ไม่ทัน มันจมเร็วมาก โดยก่อนที่จมลงไป เรามีการขยับเรือเข้าไปเกยตื้นแล้ว แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะน้ำทะเลมันขึ้น

ส่วนสาเหตุเท่าที่สอบถามทราบว่าขณะที่เรือของเราวิ่งออกปากอ่าวแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ได้มีการขานรับให้เรือคู่กรณีวิ่งแซงอีกข้างหนึ่ง ตามกฎกติกาของการเดินเรือ แต่เรือคู่กรณีกลับวิ่งแซงมาอีกทางหนึ่ง โดยที่เขาวิ่งตัดหน้าเรา เราก็หลบไม่ได้เพราะอีกฝั่งมีเรือน้ำมัน เขาก็วิ่งทางกลางร่องน้ำ พอถึงเวลากระชั้นชิดเข้าก็วิ่งออกมาขวาง และวิ่งเข้ามาชนเรือของเรากลางลำ

ระทึก!เรือบรรทุกตู้สินค้า ชนสนั่นกลางแม่น้ำเจ้าพระยาระดมกู้คอนเทเนอร์ด่วน

ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุเรือของตนวิ่งบรรทุกสินค้าออกมาจากท่าเรืออ่าวอุดม ชลบุรี เพื่อจะมาส่งสินค้าที่ท่าเรือคลองเตย แต่เรือคู่กรณีที่กำลังวิ่งออกปากอ่าว ซึ่งมีส่งสัญญาณกันแล้ว เขาต้องแซงซ้ายกันทุกลำ แต่เรือคู่กรณีขอแซงขวาแต่เราก็หลบไม่ได้เพราะเราติดเรือน้ำมัน ซึ่งในเรือบรรทุกตู้คอนเทเนอร์มากว่า 45 ตู้ ภายในเป็นสินค้าทางการเกษตร เพื่อที่จะไปขึ้นที่ท่าเรือคลองเตย 

ส่วนการกู้เรือคาดว่าน่าจะเสร็จภายในคืนนี้ถ้าไม่มีอะไรติดขัด เพราะต้องใช้ประดาน้ำลงไปปลดล็อกตู้เพื่อเก็บกู้ขึ้นมาก่อน เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้า ส่วนค่าเสียหายตนเองก็ยังไม่แน่ใจ เพราะตู้สินค้าเขาราคาเท่าไหร่ แต่ตัวเรือไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท  ส่วนในเรื่องร่องน้ำการเดินเรือก็ไม่ได้แคบเพราะมีการสัญจรผ่านเข้าออกกันมาตลอด แต่ทั้งนี้มีการฝ่าฝืนเข้ามา ทั้งที่เราขานรับแล้วว่าไม่ได้ไม่ให้ แต่เขาก็ยังฝ่าฝืนเข้ามา และก็ติดต่อเขาไม่ได้ เราก็แล่นเรือไปตามปกติ ซึ่งขณะเกิดเหตุก็มีพยานเห็นกันหลายคน ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทประกันภัยของเรือกำลังคุยกัน

ด้านนายวันชัย  คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งทำการเก็บกู้ตู้คอนเทเนอร์ที่ภายในบรรจุสินค้ามา ซึ่งทางเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้ประสานนำเรือเครนขนาดใหญ่ เข้ามาทำการเก็บกู้ตู้คอนเทเนอร์ที่มีอยู่ทั้งหมด 51 ตู้คอนเทเนอร์ น้ำหนักรวมกว่า 1 พันตันขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเรียง และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อการเดินเรื่อง เพราะมันอยู่ในร่องน้ำขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่น้ำลง แต่เวลานี้เป็นช่วงน้ำขึ้น เรือก็จะหนักที่รับน้ำอยู่ก็จะจมลง เท่าที่ได้พูดคุยกันท่านรองอธิบดีกรมเจ้าท่ายืนยันว่า การเก็บกู้จะแล้วเสร็จภายในคืนนี้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเชิญเจ้าของเรือทั้งสองลำและประกันภัยมาทำการสอบถามข้อเท็จจริง ส่วนการดำเนินการของทางเจ้าท่าและทางจังหวัดก็ได้ดูแลแก้ไขปัญหา เพราะว่าเป็นร่องน้ำที่ต้องใช้ในการสัญจร ถ้าไม่เร่งแก้ไขให้แล้วเสร็จ ก็จะทำให้มีปัญหาในการสัญจรทางน้ำ ส่วนเรือคู่กรณีซึ่งขณะที่แล่นออกจากที่เกิดเหตุไปส่งสินค้าแล้ว ทางเจ้าท่าได้มีการพูดคุยกันแล้ว