สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ว่า คำสั่งของทรัมป์ คือการระงับการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐ หรือ Foreign Corrupt Practices Act (เอฟซีพีเอ) และสั่งให้นางพาเมลา บอนได รมว.ยุติธรรม ทบทวนการดำเนินการในปัจจุบันและอดีต ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายดังกล่าว รวมถึงแสวงหาทางใหม่สำหรับการบังคับใช้
กฎหมายเอฟซีพีเอ ซึ่งประกาศใช้เมื่อปี 2520 ห้ามบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในสหรัฐ ติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป กฎหมายดังกล่าวกลับกลายเป็นแรงผลักดัน ในการดำเนินธุรกิจของชาวอเมริกันในต่างประเทศ
Trump to loosen enforcement of US law banning bribery of foreign officials https://t.co/NM9e9fqgs3
— The Straits Times (@straits_times) February 10, 2025
“กฎหมายดังกล่าวจะมีความหมายต่อธุรกิจของอเมริกา เพิ่มมากขึ้นอีกมาก” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว ระหว่างลงนามในคำสั่ง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ในวาระการดำรงตำแหน่งสมัยแรกของทรัมป์ ผู้นำสหรัฐต้องการยกเลิกกฎหมายเอฟซีพีเอ โดยระบุว่านี่คือ “กฎหมายที่เลวร้าย” และโลกกำลังหัวเราะเยาะสหรัฐ ซึ่งยังคงบังคับใช้กฎหมายนี้
เอกสารของทำเนียบขาวระบุว่า กฎหมายเอฟซีพีเอลดขีดความสามารถทางการแข่งขัน ของผู้ประกอบการสหรัฐในต่างประเทศ และสร้างสนามแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมกัน ขณะเดียวกัน ทรัมป์เรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรม “แก้ไขแนวปฏิบัติบังคับใช้กฎหมายที่เหมาะสม” เพื่อไม่ให้ขัดขวางการลงแข่งขันในต่างประเทศของบริษัทอเมริกัน
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา บริษัทข้ามชาติจำนวนมาก ตกอยู่ภายใต้การตรวจสอบของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับเอฟซีพีเอ รวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และวอลมาร์ต.
เครดิตภาพ : AFP