สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าหากกลุ่มฮามาสไม่ส่งมอบตัวประกัน “ที่ยังเหลือทั้งหมด” ตามกำหนดการ คือเวลาเที่ยงวันของวันเสาร์ที่ 15 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น “ให้ถือว่าข้อตกลงหยุดยิงเป็นอันสิ้นสุด” และกองทัพอิสราเอลจะกลับมาปฏิบัติการในฉนวนกาซา จนกว่าจะสามารถจัดการกับกลุ่มฮามาส “ให้สิ้นซาก”


ถ้อยแถลงดังกล่าวของผู้นำอิสราเอล เป็นการเน้นย้ำท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ซึ่งแสดงความไม่พอใจ ต่อการที่กลุ่มฮามาสเลื่อนปล่อยตัวประกันกลุ่มต่อไป “ออกไปอย่างไม่มีกำหนด” จากกำหนดการเดิม คือเวลาเที่ยงวัน ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ที่ 15 ก.พ. โดยถึงขั้นกล่าวว่า หากไม่มีการปล่อย “ตัวประกันที่ยังเหลือทั้งหมด” ภายในกำหนดการ สถานการณ์อาจถึงขั้น “นรกแตก”


ขณะที่นายซามี อาบู ซูห์รี หนึ่งในสมาชิกระดับสูงของกลุ่มฮามาส กล่าวว่า ทรัมป์ต้องเข้าใจและตระหนักว่า ข้อตกลงสงบศึก “ต้องได้รับการเคารพจากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย” เพื่อเป็นหลักประกันให้กับการได้รับอิสรภาพของเชลยทั้งสองฝ่าย “การใช้วาทกรรมข่มขู่เช่นนี้ไม่มีค่า และมีแต่จะยิ่งทำให้สถานการณ์ยุ่งยากมากขึ้นเท่านั้น”


ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสกล่าวว่า อิสราเอลยังคงไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด และประณามปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล ซึ่งส่งผลให้มีประชาชนในฉนวนกาซาเสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


แม้อิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงรอบปัจจุบัน ซึ่งจะมีผลเป็นเวลา 42 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยในระหว่างนี้ มีการปล่อยตัวประกันและนักโทษชาวปาเลสไตน์ออกเป็นรอบ.

เครดิตภาพ : AFP