เมื่อเร็วๆนี้ กลุ่มไทยออยล์ จัดการแข่งขันตอบปัญหาพลังงานและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกและสร้างความร่วมมือในการอนุรักษ์พลังงานอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิดโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy: BCG) ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารหอประชุมไทยออยล์

โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการพัฒนาเยาวชนเพื่อสังคมที่ยั่งยืนของกลุ่มไทยออยล์ โดยเน้นการเรียนรู้ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชน เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มไทยออยล์เชื่อมั่นว่า การปลูกฝังแนวคิดด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วัยเยาว์จะช่วยปูทางให้ประเทศไทยก้าวสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนได้อย่างแท้จริง

การแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 รอบ ได้แก่ รอบคัดเลือกที่เป็นการตอบคำถามแบบปรนัย 20 ข้อ เพื่อคัดเลือก 10 ทีมที่ได้คะแนนสูงสุดเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการตอบคำถามแบบอัตนัย 10 ข้อ โดยในปีนี้มีโรงเรียนเข้าร่วมทั้งสิ้น 22 โรงเรียน รวม 43 ทีม แต่ละทีมประกอบด้วยสมาชิก 2 คน โรงเรียนละไม่เกิน 1-2 ทีม บรรยากาศการแข่งขันเต็มไปด้วยความเข้มข้นและความมุ่งมั่นของเยาวชนที่ต้องการแสดงศักยภาพด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม

เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ผู้เข้าแข่งขัน กลุ่มไทยออยล์ได้มอบทุนการศึกษาและเกียรติบัตรให้แก่ทุกทีมที่เข้าร่วม โดยรางวัลชนะเลิศได้รับทุนการศึกษามูลค่า6,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับทุนการศึกษามูลค่า 5,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับทุนการศึกษามูลค่า4,000 บาท และรางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้รับทุนการศึกษารางวัลละ2,000 บาท นอกจากนี้ทุกทีมที่เข้าร่วมยังได้รับทุนการศึกษามูลค่า1,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรและของที่ระลึกจากกลุ่มไทยออยล์

สำหรับ ทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ในปีนี้ ได้แก่ โรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 โรงเรียนเมืองพัทยา 11 (มัธยมสาธิตพัทยา) และรางวัลชมเชย 2 รางวัลได้แก่ โรงเรียนชลราษฎรอำรุง และโรงเรียนชลกันยานุกูล

การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาแนวคิดด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมให้เยาวชนได้นำไปต่อยอดสู่การดำเนินชีวิตจริง กลุ่มไทยออยล์ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างเยาวชนให้เติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศ พร้อมทั้งเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน