เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนภาค 2 ใช้แผนยุทธการอรัญ 68 SEAL BORDER สืบภาค 2 ประสานงานกับ ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบโรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังสืบทราบมาว่ากลุ่มผู้เปิดบัญชีม้า มักจะใช้โรงแรมดังกล่าวเป็นที่พักพิง ก่อนที่จะออกเดินทางข้ามแดนไปทำงานสแกนหน้าทำธุรกรรมการเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ฝั่งประเทศกัมพูชา

จากการตรวจสอบ พบหญิงวัย 58 ปี เป็นเจ้าของโรงแรม ให้การยอมรับว่า โรงแรมของตนเปิดให้เข้าพักเป็นรายวันแก่ผู้สัญจรทั่วไป จึงจับกุมในฐานความผิด เปิดโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ตาม พ.ร.บ.โรงแรม ส่ง สภ.อรัญประเทศ

นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบกลุ่มคนต้องสงสัยอีก 3 คือ นายสำเริง (สงวนนามสกุล), นายธนวัฒน์ (สงวนนามสกุล) และนายอรรณพ (สงวนนามสกุล) จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ ได้ความว่า ก่อนหน้านี้ นายสำเริง ได้รับชักชวนจากเพื่อนให้ไปทำงานที่ฝั่งกัมพูชา ก่อนออกเดินทางจึงได้ชวน นายธนวัฒน์ ไปด้วยกัน โดยมีรถตู้มารับทั้ง 2 คน จากเขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ระหว่างการเดินทางมีการถามเรื่องบัญชีธนาคาร และแอปพลิเคชันในโทรศัพท์

พร้อมเสนอซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้ และยังบอกอีกว่า “ยิ่งเปิดบัญชีมากเท่าไหร่ ก็จะได้เงินเยอะเท่านั้น” ต่อมาคนขับรถตู้ได้พามาที่ จ.นครราชสีมา และได้เปลี่ยนไปนั่งรถยนต์ของ นายอรรณพ คนขับรถรับจ้าง ก่อนที่จะไปรับโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ร้านขายโทรศัพท์ และเปิดบัญชีธนาคารเพิ่มพร้อมใช้งาน และได้ออกเดินทางมาที่ อ.อรัญประเทศ เพื่อพักและรอคนมารับพาข้ามแดนต่อ ซึ่งกระบวนการแต่ละขั้นตอน จะมีคนประสานงานและจัดการอยู่เบื้องหลัง โดยจะแจ้งเป็นคำสั่งผ่านทางโทรศัพท์เป็นระยะ

จากพฤติการณ์นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นขบวนการจัดหาบัญชีม้า และส่งคนไปสแกนหน้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งกัมพูชา จึงได้ทำการสอบปากคำและเก็บพยานหลักฐานเพื่อทำการขยายผลสืบสวนจับกุมต่อไป, ที่พักไม่มีใบอนุญาตโรงแรม ห้ามเก็บค่าเช่าเป็นรายวัน และการเปิดที่พักให้กลุ่มคอลเซ็นเตอร์พัก อาจผิดกฎหมายอื่น, บัญชีม้าและผู้เป็นธุระจัดหา นำพาม้าไปเปิดบัญชี พาเดินทางเพื่อข้ามแดน ผิดกฎหมาย พ.ร.ก.อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ต่อไป