สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ว่ารายงานโดยหนังสือพิมพ์โยมิอุริ รวบรวมข้อมูลจากสมาคมห้องสมุดญี่ปุ่น ซึ่งทำการสำรวจเทศบาลที่ไม่มีห้องสมุด ณ เดือน เม.ย. 2567 และมูลนิธิอุตสาหกรรมการพิมพ์ญี่ปุ่นเพื่อวัฒนธรรม ซึ่งรวบรวมเทศบาลที่ไม่มีร้านหนังสือ ณ เดือน พ.ย. 2567

ผลการสำรวจพบว่า มีเทศบาล 256 แห่งในญี่ปุ่น ซึ่งไม่มีทั้งห้องสมุดและร้านหนังสือ รวมถึงเมืองฮาโกเนะ ในจังหวัดคานางาวะ ซึ่งอยู่ติดกับกรุงโตเกียว และเมืองคามิยามะ ในจังหวัดโทคุชิมะ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ

ผลการสำรวจเมื่อปี 2565 พบว่า มีเพียงเทศบาล 247 แห่ง ขณะที่ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอีก 9 แห่ง รวมถึงเมืองอิจิโนมิยะ ในจังหวัดชิบะ ที่อยู่ทางตะวันออกของกรุงโตเกียว ซึ่งร้านหนังสือแห่งสุดท้ายปิดตัวลงในปี 2565 และเมืองยูซาวะ ในจังหวัดนีงาตะ อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่ร้านหนังสือแห่งสุดท้ายปิดตัว เมื่อปี 2566

แม้ตัวเลขของห้องสมุดกำลังเพิ่มขึ้น แต่ร้านหนังสือในประเทศกำลังลดลงอย่างมาก ย้อนกลับไปเมื่อปี 2546 ในญี่ปุ่นมีร้านหนังสือ 20,880 แห่ง แต่ในปี 2566 กลับลดลงเหลือเพียง 10,918 แห่ง หรือเกือบครึ่งหนึ่งภายในระยะเวลา 20 ปี สวนทางกับยอดขายบนช่องทางออนไลน์ และการแพร่กระจายของสมาร์ตโฟน

นายโคสุเกะ โอคาเบะ เลขาธิการสมาคมห้องสมุดญี่ปุ่น เตือนว่า “ผู้คนที่ไม่สามารถซื้อหนังสือผ่านช่องทางออนไลน์ได้จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และนิสัยการอ่านหนังสือก็จะค่อย ๆ หายไปในพื้นที่ซึ่งไม่มีห้องสมุดและร้านหนังสือ” และในพื้นที่เหล่านั้น การสร้างวัฒนธรรมการพิมพ์ขึ้นมาใหม่จะถือเป็นเรื่องยาก.

เครดิตภาพ : AFP