ช่วงปลายปี 2567 อู๋เทียนเจิน ศัลยแพทย์วัย 31 ปีจากโรงพยาบาลจงหนาน มหาวิทยาลัยอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ มีน้ำหนักตัวมากถึง 97.5 กก. ซึ่งเป็นน้ำหนักที่มากที่สุดในชีวิตของเขา ตามด้วยการวินิจฉัยว่าเขามีภาวะไขมันพอกตับ 

แต่เมื่อสิ้นสุดเดือนมกราคม 2568 นายแพทย์เจ้าของส่วนสูง 182 ซม. ผู้นี้ลดน้ำหนักไปได้ถึง 25 กก. ภายในเวลาเพียง 42 วัน ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้วจนสามารถเข้าร่วมแข่งขันกับบรรดานักเพาะกายและคว้าชัยชนะมาได้หลายรางวัล

คุณหมออู๋ซึ่งปัจจุบันคงน้ำหนักไว้ที่ 73.5 กก. เผยแนวทางการปฏิวัติตัวเองเพื่อลดน้ำหนักบางส่วน โดยชี้ว่าเป็นการผสมผสานระหว่างความทะเยอทะยานส่วนตัว การฝึกฝนร่างกาย และการควบคุมอาหารอย่างรอบคอบ 

อู๋เทียนเจิน ลดน้ำหนัก 25 กก. ได้ในเวลาไม่ถึง 2 เดือน

ก่อนหน้าจะเริ่มลดน้ำหนัก งานส่วนใหญ่ของศัลยแพทย์อู๋คือการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อช่วยคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องการลดน้ำหนัก เขาเริ่มรู้ตัวว่าต้องหาทางลดน้ำหนักตัวเองบ้าง ก่อนที่จะมีปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง

หลังจากที่พบว่าตัวเองมีภาวะไขมันพอกตับ นายแพทย์อู๋ก็เริ่มท้าทายตัวเองโดยตั้งเป้าว่าจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันเพาะกายให้ได้ เขาเริ่มฝึกซ้อมร่างกายวันละ 2 ชั่วโมง นอกเหนือไปจากการทำงานตามปกติ ซึ่งจะต้องเข้าห้องผ่าตัดสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ตรวจคนไข้ตามแผนกสัปดาห์ละ 2 วัน รวมถึงมีงานวิจัยและให้คำปรึกษาอื่นๆ

คุณหมออู๋เล่าว่า เขาจะตื่นนอนตอน 05.30 น. ทุกเช้า จากนั้นก็ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (บริหารกล้ามเนื้อหัวใจ) นาน 1 ชั่วโมง ก่อนไปทำงาน เมื่อเสร็จงานในแต่ละวัน เขาก็จะไปออกกำลังกายอีก 1 ชั่วโมง สุดท้ายก็จะแช่เท้าในน้ำร้อน อาบน้ำอุ่นก่อนเข้านอน เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดี โดยเขากำหนดให้ตัวเองนอนให้ได้วันละ 6 ชั่วโมงทุกคืน

เมื่อใกล้ถึงวันแข่งขัน หมอหนุ่มก็จะเพิ่มเวลาในการออกกำลังกายและเทรนกล้ามเนื้อเป็นวันละ 4 ชั่วโมง 

ถึงหมออู๋จะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับโภชนาการของเขา แต่ซื่อฟาน เทรนเนอร์ของเขา ซึ่งมีอดีตเป็นถึงนักกรีฑาชื่อดังของจีน รวมถึงแชมป์เหรียญทองประเภท Overall Fit Model จากงานแข่งขัน IFBB World Fit Model Championships ที่ลิทัวเนียเมื่อปีที่แล้ว ชี้ว่า การออกกำลังกายหรือเทรนกล้ามเนื้อคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ลดน้ำหนักได้สำเร็จ

ซื่อฟานให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเซาท์ไชนา มอร์นิงโพสต์ว่า “ระดับความหนักในการเทรนของอู๋นั้น เหนือกว่าระดับการเทรนของนักกีฬามืออาชีพหลายคนเสียอีก”

นายแพทย์อู๋กล่าวถึงแรงจูงใจในการลดน้ำหนักของตัวเองว่า เขาหวังจะเป็นแบบอย่างให้ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานซึ่งกำลังดิ้นรนเพื่อลดน้ำหนักส่วนเกิน ทำให้พวกเขาเชื่อมั่นในรูปแบบการลดน้ำหนักตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

เขาแนะนำให้ผู้ที่อยากลดน้ำหนักใช้ชีวิตแบบมีสุขภาพดี ซึ่งได้แก่การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และทำจิตใจให้ผ่อนคลาย

นายแพทย์อู๋ยังให้คำแนะนำซึ่งดูจะย้อนแย้งกับสิ่งที่เขาทำอยู่ไม่น้อยว่า “คุณควรวางแผนลดน้ำหนักในระยะยาวและมุ่งมั่นที่จะทำตามแผน ผมไม่แนะนำให้ใช้วิธีลดน้ำหนักแบบสุดโต่งในระยะสั้นที่กำหนดให้กินอาหารได้น้อยมาก”

ที่มา : odditycentral.com, scmp.com

เครดิตภาพ :  Weibo, Weixin