ใกล้เริ่มได้ใช้งานกันแล้วสำหรับคนไทยกับทางเลือกในการมี ดิจิทัล โพสต์ ไอดี “Digital Post ID” ส่วนบุคคล หรือ D/ID (ดี–ไอ-ดี) ที่ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ได้ให้ทาง ไปรษณีย์ไทย (ปณท) พัฒนาระบบนี้ขึ้นตั้งแต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา
บริการ D/ID คืออะไร?
เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า บริการ D/ID ที่ ปณท พัฒนาขึ้นคืออะไร หากอธิบายง่ายๆ ก็คือ การจ่าหน้า แบบใช้รหัส ในการส่งจดหมาย ที่ใช้แทนการจ่าหน้าโดยการเขียนที่อยู่แบบปกติ ซึ่งการจ่าหน้าแบบใช้รหัส จะช่วยช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างการจัดส่งสิ่งของ และยังสามารถบอกพิกัดแนวดิ่งได้ทำให้สามารถระบุ ที่อยู่สำหรับผู้ที่อยู่ในอาคารสูง พวกอาคาร คอนโดมิเนียม และเมื่อผู้ใช้งานมีการแก้ไขข้อมูลที่อยู่ในระบบ D/ID ข้อมูลที่อยู่ซึ่งเดิมไว้ใช้ติดต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ไปยังหน่วยงานปลายทางโดยอัตโนมัติ
ทำไมต้องมี D/ID
หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า แล้วทำไมต้องใช้ D/ID การพัฒนาระบบนี้ขึ้นมานั้น เรื่องจาก โลกในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาล้ำกน้าไปมาก ไม่ว่าจะเป็น ด้านการติดต่อสื่อสาร การขนส่ง – โลจิสติกส์ การศึกษา ความก้าวหน้าทางการแพทย์ ตลอดจนถึงการดำเนินธุรกรรมออนไลน์ ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ

และด้วยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องของธุรกรรมออนไลน์ ทำให้ข้อมูลสำคัญเข้าไปอยู่บนระบบต่าง ๆ ตามไปด้วย และสิ่งจำเป็นจะต้องมีการกรอกทั้งข้อมูลส่วนบุคคล/ ที่อยู่ เพื่อให้สะดวกต่อการดำเนินเรื่องต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
แต่การเขียนกรอกข้อมูลเหล่านี้ ก็เสี่ยง ในการเกิด ก็เกิดปัญหาการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่คาดคิดและอาจนำมาสู่การเกิดภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต หรืออาชญากรรมไซเบอร์ได้ในที่สุดและจากแนวโน้มของภัยไซเบอร์ และการตั้งคำถามด้านความปลอดภัยจากหลายภาคส่วน ทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ตระหนักถึงการสร้างเกราะคุ้มภัยเตรียมพร้อมรับมือและป้องกันในทุกมิติ
ทาง “ไปรษณีย์ไทย” ที่ถือเป็นหน่วยงานสื่อสารและขนส่งของชาติ ภายใต้สังกัดกระทรวงดีอี ก็มีนโยบาย มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายทั้ง Physical และ Digital เพื่อยกระดับองค์การสู่ “ดิจิทัล”
ป้องกันข้อมูลรั่วไหล
ระบบ D/ID ได้ให้ความสำคัญกับ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการและประชาชน เพื่อยกระดับความปลอดภัย โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ/ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ e-Commerce Platform
เพราะโดยปกติแล้ว ในการส่งพัสดุหรือจดหมาย สิ่งที่ต้องทำคือเขียนหรือพิมพ์ข้อมูล ซึ่งประกอบไปด้วยชื่อ – ที่อยู่ ผู้รับและผู้ส่ง เบอร์โทรศัพท์ รหัสไปรษณีย์ แต่ในอนาคต เมื่อมีการใช้งาน D/ID จะช่วยยกระดับประเทศไทยก้าวสู่สังคมและเศรษฐกิจดิจิทัล ทำให้ต่อไป D/ID จะเป็นทางเลือกใหม่ในการจ่าหน้าแบบใช้รหัสให้เป็นรูปแบบดิจิทัล ช่วยปกป้องข้อมูล ส่วนบุคคลระหว่างการจัดส่งสิ่งของ โดยข้อมูลที่อยู่ผู้ส่ง – ผู้รับจะถูกแปลงเป็นรหัส 6 หลัก (ตัวอักษรภาษาอังกฤษผสมกับตัวเลข) เพื่อบอกตำแหน่งพิกัดที่อยู่ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเขียนรหัส 6 หลัก นี้บนหน้ากล่องพัสดุ หรือแจ้งรหัส 6 หลักกับเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทย เพื่อแปลงเป็น QR code แปะลงบนหน้ากล่องพัสดุได้เช่นกัน

หลักการทำงานของ D/ID
สำหรับการใช้งาน D/ID นั้น ทาง ปณท ได้ ต่อยอดมาจากการใช้รหัสไปรษณีย์ 5 หลักที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับการส่งเอกสารและพัสดุ โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกแปลงเป็นพิกัดที่ตั้งบนพื้นผิวโลก และใช้หลักการทำงานเดียวกันกับระบบการหาตำแหน่งทั่วโลก หรือ Global Positioning System : GPS
เรียกว่าถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยในการเซตระบบการขนส่งพัสดุ – ไปรษณียภัณฑ์ที่ล้ำสมัยอย่างมาก เพราะ QR code นี้จะมาช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในระหว่างการจัดส่งสิ่งของ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย นอกจากนี้ QR code ดังกล่าวจะสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว และมีเพียงผู้รับและเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทยเท่านั้นที่สามารถสแกน QR Code เพื่อเข้าถึงข้อมูลจ่าหน้าที่มีข้อมูลที่อยู่ผู้รับและผู้ส่งได้
จึงช่วยลดความเสี่ยงหากบุคคลอื่นหรือมิจฉาชีพมาสแกนขโมยข้อมูลที่อยู่จากการจ่าหน้าโดยการเขียนหรือพิมพ์ที่อยู่ติดบนซอง หรือ พัสดุแบบเดิมๆ และสิ่งสำคัญ ก็คือ D/ID ยังสามารถบ่งชี้พิกัดในแนวดิ่ง ทำให้สามารถระบุที่อยู่ของผู้ใช้บริการที่อาศัยในอาคารสูง ซึ่งปัจจุบันสามารถระบุได้เพียงพิกัดของสถานที่ในแนวราบเท่านั้น

อำนวยความสะดวกผู้รับ-ส่ง
D/ID หากจะเรียกง่ายไ ก็คือ รหัสไปรษณีย์แบบดิจิทัล ซึ่งเดิมเราใช้เป็นตัวเลข จะบอกเป็นอําเภอหรือเป็นตัวพื้นที่ไปรษณีย์กว้างๆ แต่เมื่อเป็น D/ID รหัสจะเป็น location based Digital ID จะทําให้การขนส่ง การส่งสินค้า มีความแม่นยํามากขึ้น การแจ้งที่อยู่ระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย อีคอมเมิร์ซก็จะสะดวกสบายขึ้น ไม่ต้องแจ้งที่อยู่ยาวๆ ทั้งคนส่งก็ไม่ต้องมานั่งเขียนที่อยู่แจ้งเป็นโพสต์ อย่างเดียว และการทําเป็น QR code จะมีความปลอดภัยเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้รั่วไหลและที่สําคัญการแจ้งเปลี่ยนที่อยู่ก็ทําได้สะดวกผ่านระบบ ผ่านแอปพลิเคชัน
การใช้ Digital Post ID เวลาเราแจ้งที่อยู่ในการส่งสินค้า จะแจ้งแค่เป็น Post ID แล้วก็ปริ้นออกมาเป็นคิวอาร์โค้ด ไม่ต้องแจ้งที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์จริงให้กับผู้ขายสินค้าหรือคนที่จะส่งมาเพราะฉะนั้นมิจฉาชีพก็จะไม่รู้ข้อมูลาจะใช้ข้อมูลเหล่านั้นมาหลอกลวงเป็นสแกม เป็นคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้ ทําให้ระบบต่างๆก็จะมีความมั่นคงปลอดภัยมากยิ่งขึ้นประชาชนก็จะปลอดภัยจากมิจฉาชีพมากยิ่งขึ้นด้วย
“ปณท” จะเริ่มนำมาใช้เมื่อใด?
ข้อมูลล่าสุด ทาง ปณท เตรียมจะนำ บริการ D/ID มาใช้ในปี 68 นี้ โดยจะเป็นทางเลือก ในการขนส่งในช่องทางของไปรษณีย์ไทย แต่ยังไม่ได้เข้ามาแทนที่การจ่าหน้ารูปแบบเดิมที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด โดยเชื่อมั่นได้ว่า บริการ D/ID จะเป็นตัวกระตุ้นให้สตาร์ทอัพ นักพัฒนาเทคโนโลยีเกิดความสนใจที่จะสร้างโซลูชันที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลง และความต้องการของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว

ร่วมถึงจะช่วยให้คน คนทั่วไปหันมาให้ความสำคัญ กับการป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล – การรั่วไหลของข้อมูล ซึ่งนับเป็นความเสี่ยงและความท้าทายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยในขณะนี้ นอกจากนี้ การพัฒนาโซลูชัน D/ID สอดรับกับเป้าหมาย ESG ในมิติของ Governance ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลอย่างมีธรรมาภิบาล
การเร่งดำเนินโครงการพัฒนาโซลูชัน D/ID ถือเป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนในการก้าวสู่การเป็น “Information Logistics” อย่างเต็มขั้นในอนาคตด้วย.
จิราวัฒน์ จารุพันธ์