สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ว่าข้อมูลจากดัชนีคุณภาพอากาศ “ไอคิวแอร์” ซึ่งเป็นบริษัทในสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า มีเพียง 7 ประเทศบนโลกเท่านั้น ซึ่งมีคุณภาพอากาศดีตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เมื่อปี 2567 ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บาฮามาส บาร์เบโดส เกรนาดา เอสโตเนีย และไอซ์แลนด์


ขณะที่ชาดและบังกลาเทศ ครองอันดับหนึ่งร่วมกัน ในฐานะประเทศซึ่งมีค่ามลพิษทางอากาศสูงที่สุดในโลก เมื่อปีที่แล้ว โดยค่าเฉลี่ยของอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็กซึ่งเป็นอันตราย หรือพีเอ็ม 2.5 สูงกว่าเกณฑ์ของดับเบิลยูเอชโอถึง 15 เท่า


ทั้งนี้ คำแนะนำของดับเบิลยูเอชโอระบุว่า ปริมาณของฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ไม่ควรเกิน 5 ไมโครกรัมต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งตลอดปีที่แล้ว มีเพียง 17% ของเมืองบนโลก ที่สามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐานดังกล่าว


อนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยุติการดำเนินงาน ตรวจสอบคุณภาพอากาศทั่วโลกที่ให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลในแต่ละประเทศเป็นผู้ดำเนินการ และเผยแพร่บนเว็บไซต์ airnow.gov ยาวนานตลอด 17 ปีที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลเรื่องงบประมาณที่ตึงตัว แต่สร้างความวิตกกังวลให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ว่าจะมีผลต่อความพยายามพัฒนาการตรวจสอบสภาพอากาศทั่วโลกในระยะยาว.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES