เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสาวมากฝีมือ สำหรับ “จูเน่-เพลินพิชญา” นักร้อง นักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง ที่มีผลงานมากมายให้แฟนๆได้ติดตาม ซึ่งพักหลังผลงานการแสดงของเธอเริ่มเป็นที่โดดเด่นและมีคนติดตามผลงานมากขึ้นจนชื่อเสียงยิ่งกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นนั้น

ล่าสุดในงานบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง “Delivery Man (เดลิเวอรี่ แมน)” สาวจูเน่ ได้อัปเดตการใช้ชีวิตในวัย25 ไม่หวั่นเรื่องเบญจเพส โดยจูเน่เผยว่า

“สำหรับตามปกติเราไม่ค่อยได้มูเรื่องงานสักเท่าไหร่ แต่ก็มีบ้าง คือเราเป็นคนชอบพิสูจน์ อย่างเรื่องผีก็เชื่อว่ามีแต่ไม่มีเซ้น แล้วคือมันมีหลายศาสตร์ผสมกันไปหมดก็เลยคิดว่าสุดท้ายคนก็มองหาความสบายใจแหละ ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม หนูก็เหมือนกันบางทีเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่ก็ทำไว้ก่อนสบายใจกว่า สำหรับคุณแม่ของหนูวิธีการใช้ชีวิตของเขา ทำให้หนูอยากออกไปใช้ชีวิตมากกว่า ไม่ว่าจะทำงาน ปาร์ตี้ หาเพื่อน ทำทุกอย่างที่อยากทำไม่มีอะไรฉุดรั้งเขาไว้ได้ ทุกวันนี้แม่อยู่บ้านประมาณเดือนละสองครั้ง เพราะว่าฟ้าจะบิน ฟ้าบินตลอดเวลา หนูไม่ค่อยเจอเขา ถ้าแม่ดูอยู่ก็มาเจอกันบ้าง(ยิ้ม)

สิ่งที่ยึดเหนี่ยวในการทำงานและใช้ชีวิตประจำวัน เอาจริงๆ ก็หลายอย่างนะ เช่นครอบครัว มันปฏิเสธไม่ได้ อย่างคุณแม่เราเห็นการใช้ชีวิตของเขา การที่คนคนหนึ่งใช้ชีวิตแบบโลดโผนขนาดนี้ เขามีอิสระแน่นอนในเรื่องของเวลา การเงิน ความคิด ทุกอย่างเลย เราเองเราก็เห็นเขาตัวอย่างเหมือนกัน เราอยากมีอิสระตรงนั้น มันไม่ใช่แค่แบบในเรื่องของกำลังแล้ว หนูว่าช่วงวัย 25 ของหนูคือการลองผิดลองถูก การลองดูว่าชอบไม่ชอบใช่ไม่ใช่ หนูว่าทุกวันนี้สิ่งที่ยึดเหนี่ยวหนูคือการความอยากรู้อยากเห็น ณ เวลานี้ คือมันผสมปนเปกันไปหมด ซึ่งในความอยากรู้อยากเห็นในเชิงที่แบบว่า ถ้าเรารับเรื่องนี้มันจะเป็นยังไง เล่นบทบาทนี้จะเป็นยังไง หรือในเชิงของชีวิตส่วนตัว ถ้าเราไปเที่ยวที่นี่จะเป็นยังไงนะ ถ้าวันนี้เราลองโฟกัสกับสิ่งนี้ล่ะ มันเป็นการตั้งคำถาม คือใช้ชีวิตแบบหาคำตอบไปเรื่อยเรื่อย ชีวิตในวัย 25 ปีมันเป็นเหมือนห้องทดลอง วันนี้เราลองดูเมื่อวานเราทำพลาดอะไรบ้าง แล้วเราลองมาแก้ไขวันนี้ดู เราก็โอเคผลลัพธ์มันเป็นแบบนี้ชอบไม่ชอบพรุ่งนี้ลองต่อ เป็นช่วงวัยที่หนูว่ายังไม่ได้คอมมิทขนาดนั้น ยังไม่กล้ารับปากว่าเราจะเป็นคนแบบนี้แน่นอน เราจะคิดหรือจะเชื่อแบบนี้แน่นอน หนูว่าเราค่อยค่อยหาไปดีกว่าไม่อยากกดดันตัวเองมาก อยากสนุกอยากเอ็นจอย อยากไปทุกที่ที่อยากไป อยากทำงานที่อยากทำ

ส่วนเรื่องเบญจเพสอันนี้เพิ่งเริ่มต้นปีเนอะ ทุกคนจะทักหมดเลย 25 เบญจเพสเป็นยังไงกลัวไหม ส่วนตัวหนูจริงๆ หนูชอบผู้ติดตลกแต่มันก็แอบเป็นเรื่องจริงสำหรับหนู เบญจเพสหรอก็รู้สึกว่าตัวเองโชคร้ายมาหลายปีแล้วนะ มันมีปีที่เราเจออย่างปีชงปีที่เราฟาดเคราะห์ เราก็รู้สึกว่าเราไม่ถึงกับปักใจเชื่อว่า 25 มันเป็นเลขที่เลวร้าย หนูเชื่อว่าทุกปีมันมีเรื่องที่เลวร้ายและมีเรื่องที่ดีอยู่เสมอมันอยู่ที่ว่าเราเลือกจะจดจำอะไรได้มากกว่า ถามว่าปีนี้จะไม่มีอะไรที่แย่เลยไหมมันก็เป็นไปไม่ได้ แค่ว่าถ้าวันนี้หลังจากนี้ถ้าเราล้มในปีนี้ ช่วยดึงดิฉันขึ้นมาด้วยนะคะ ช่วยซัพพอร์ตผู้หญิงคนนี้ได้ไหมคะ ถ้าล้มอย่าเหยียบซ้ำนะ ขอเวลาแป๊บนึงเดี๋ยวจะลุกขึ้นมาสู้ใหม่”