สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองคุนหมิง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ว่าในปี 2567 จีนมีพื้นที่เพาะปลูกบลูเบอร์รีมากกว่า 1.1 ล้านหมู่ ( ราว 458,000 ไร่ ) และมีผลผลิตประมาณ 500,000 ตัน ส่งผลให้จีนเป็นหนึ่งในประเทศซึ่งมีผลผลิตบลูเบอร์รีเติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยมณฑลยูนนาน ที่อยู่ตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เป็นพื้นที่การผลิตบลูเบอร์รีหลัก ด้วยสัดส่วนการผลิตประมาณ 30% ของทั้งประเทศ


ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ต้นกล้าบลูเบอร์รีหลายแหล่งผลิตของจีนเพิ่งเข้าสู่ระยะออกดอก แต่บลูเบอร์รีที่สุกก่อนฤดู ในเมืองเหมิงจื้อและหมีเล่อ ของมณฑลยูนนาน เริ่มเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว เกษตรกรจึงต่างง่วนกับการเก็บเกี่ยวและบรรจุหีบห่อ


บลูเบอร์รีที่เก็บเกี่ยวตอนเช้าจะถูกนำมาคัดแยก แช่เย็นไว้ล่วงหน้า และบรรจุหีบห่อในช่วงบ่าย ก่อนจะส่งจำหน่ายสู่ชั้นวางอาหารสดในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองกว่างโจว ฯลฯ ภายใน 24 ชั่วโมง


บลูเบอร์รีมีแหล่งกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ ต่อมาได้พบบ้านหลังที่สองในจีน โดยข้อมูลจากหน่วยงานด้านการเกษตรของสหรัฐ เผยแพร่เมื่อปี 2564 ระบุว่า จีนเป็นผู้ผลิตบลูเบอร์รีรายใหญ่ที่สุดของโลก แซงหน้าสหรัฐแล้ว


เหอเจียเว่ย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชเศรษฐกิจบนเทือกเขาสูง สังกัดสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรมณฑลยูนนาน ผู้ศึกษาด้านบลูเบอร์รีมานานกว่า 20 ปี และเป็นผู้ส่งเสริมการนำบลูเบอร์รีเข้าสู่มณฑลยูนนาน กล่าวว่า มณฑลยูนนานมีทรัพยากรบลูเบอร์รีป่าถึง 46 ชนิด ครองสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่ง ของบลูเบอร์รีป่าทั้งหมดในประเทศ ถือเป็นพื้นที่เหมาะสมที่ สุดสำหรับการผลิตบลูเบอร์รีแห่งหนึ่งของโลก


ข้อมูลสถิติจากสำนักเกษตรและกิจการชนบทของมณฑลยูนนาน ระบุว่า ในปี 2567 มณฑลแห่งนี้มีพื้นที่เพาะปลูกบลูเบอร์รี แตะ 249,000 หมู่ ( ราว 103,000 ไร่ ) มีผลผลิต 171,000 ตัน ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่เพาะปลูกในโรงเรือน 169,000 หมู่ (ราว 70,416 ไร่) สร้างผลผลิต 144,000 ตัน

จากการประมาณการเบื้องต้นคาดว่า มูลค่าผลผลิตของอุตสาหกรรมบลูเบอร์รี จะอยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านหยวน ( ราว 78,700 ล้านบาท ).

ข้อมูล : XINHUA

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES