หลายคนมีความเชื่อว่า หากสายตาสั้นตั้งแต่เด็ก เมื่ออายุมากขึ้นจะไม่ประสบปัญหาสายตายาว แต่ความจริงแล้วความเชื่อนี้ถูกต้องหรือไม่?

ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับความเข้าใจผิดเรื่องสายตา พร้อมทั้งแนะนำวิธีดูแลสุขภาพดวงตาให้ดีในทุกช่วงวัย

กรณีศึกษา: คุณยายสายตาสั้น 2300

คุณยายวัย 70 กว่าปี เข้ารับการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการมองเห็นไม่ชัด ผลตรวจพบว่าคุณยายมีภาวะสายตาสั้นถึง 2300 ซึ่งถือว่ารุนแรงมาก หลานสาวเล่าว่าคุณยายและคุณตาติดการเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างหนัก แม้กระทั่งในวัยที่ควรจะประสบปัญหาสายตายาวตามวัยมากที่สุด

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสายตาสั้น

สายตาคงที่หลังอายุ 18 ปี:

ไม่จริง! แม้ว่าการพัฒนาของดวงตาจะหยุดลงเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ แต่หากใช้สายตาอย่างหนัก สายตาสั้นก็ยังสามารถเพิ่มขึ้นได้

สายตาสั้นจะไม่เป็นสายตายาว:

ไม่จริง! สายตาสั้นเกิดจากแกนตายาวขึ้น ส่วนสายตายาวตามวัยเกิดจากเลนส์ตาเสื่อมสภาพ ซึ่งทั้งสองภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นพร้อมกันได้

ปิดไฟเล่นโทรศัพท์ไม่ทำร้ายสายตา:

ไม่จริง! การเล่นโทรศัพท์ในที่มืดจะกระตุ้นดวงตาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดอาการตาแห้ง สายตาสั้น สายตาเอียง และอาจนำไปสู่โรคต้อหินได้

นอนเล่นโทรศัพท์ไม่ทำร้ายสายตา:

ไม่จริง! การนอนเล่นโทรศัพท์จะทำให้สายตาต้องปรับโฟกัสมากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก เกิดอาการตาล้า และสายตาสั้นแย่ลง

วิธีดูแลสุขภาพดวงตาเมื่อใช้โทรศัพท์หรือดูวิดีโอ

กฎ 20-20-20: ทุก 20 นาที ให้พักสายตา 20 วินาที โดยมองไปที่วัตถุที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต

รักษาระยะห่าง: รักษาระยะห่างที่เหมาะสมในการดูโทรศัพท์

แสงสว่างเพียงพอ: เล่นโทรศัพท์ในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ

ท่านั่งที่ถูกต้อง: นั่งหลังตรง ไม่นอนเล่นโทรศัพท์

รับประทานอาหารบำรุงสายตา: เน้นอาหารที่มีวิตามินซี ลูทีน ซีแซนทีน และโอเมก้า 3 เช่น ผัก ผลไม้ ไข่แดง และปลาทะเล

พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ดวงตาได้พักผ่อน

บริหารดวงตา: บริหารกล้ามเนื้อตาเป็นประจำ เพื่อป้องกันสายตายาวตามวัย

ตรวจสุขภาพตา: ควรตรวจสุขภาพตากับจักษุแพทย์เป็นประจำทุกปี

สายตาสั้นและสายตายาวเป็นภาวะที่แตกต่างกัน และสามารถเกิดขึ้นพร้อมกันได้ การดูแลสุขภาพดวงตาอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันปัญหาสายตาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต.

ที่มาและภาพ : หนังสือพิมพ์ประชาชนออนไลน์ของจีน